
สะเทือนธุรกิจพลังงาน EU เห็นชอบร่างกฎหมายจำกัดการปล่อยก๊าซมีเทน ในน้ำมันและก๊าซ โดยจะเริ่มใช้ปี 2573
15 พ.ย. 2566 สหภาพยุโรป (EU) บรรลุข้อตกลงร่างกฎหมายเกี่ยวกับการจำกัดการปล่อยก๊าซมีเทนในกระบวนการผลิตของน้ำมัน-ก๊าซนำเข้า ตั้งแต่ปี 2573 เป็นต้นไป
หลังจากเจรจาตลอดทั้งคืน ประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปและรัฐสภายุโรปเห็นชอบกับร่างกฎหมาย ที่กำหนดให้ ตั้งแต่ปี 2573 เป็นต้นไป ผู้นำเข้าน้ำมันดิบ ก๊าซ และถ่านหิน ในยุโรป ต้องพิสูจน์ระดับความเข้มข้นของก๊าซมีเทนในเชื้อเพลิงที่นำเข้า โดยร่างกฎหมายฉบับดังกล่าวจะถูกส่งต่อไปยังรัฐสภายุโรปและประเทศในสหภาพยุโรป เพื่อทำการอนุมัติในขั้นตอนสุดท้าย
คณะมนตรียุโรป (European Council) ระบุในแถลงการณ์ว่า ร่างกฎหมายฉบับนี้ ยังแนะนำข้อกำหนดใหม่สำหรับอุตสาหกรรมน้ำมัน ก๊าซ และถ่านหิน ในเรื่องการวัด รายงาน และตรวจสอบการปล่อยก๊าซมีเทน
ข้อตกลงดังกล่าวกำหนดให้ผู้ผลิตน้ำมันและก๊าซในยุโรป ต้องระบุและจัดการกับปัญหาการรั่วไหลของก๊าซมีเทนในกระบวนการผลิต และยังจำกัดการเผาและการระบายก๊าซมีเทนส่วนเกินสู่ชั้นบรรยากาศ ทั้งนี้ ก๊าซมีเทนรั่วเข้าสู่ชั้นบรรยากาศจากท่อรั่วและโครงสร้างพื้นฐานที่แหล่งน้ำมันและก๊าซ
กฎหมายดังกล่าว มีแนวโน้มที่จะกระทบต่อซัพพลายเออร์ก๊าซรายใหญ่ ซึ่งรวมถึงสหรัฐอเมริกา แอลจีเรีย และรัสเซีย
รัสเซียลดการส่งมอบก๊าซไปยังยุโรปเมื่อปีที่แล้ว และนับตั้งแต่นั้นมาก็ถูกแทนที่ด้วยนอร์เวย์ ซึ่งเป็นผู้จัดหาก๊าซธรรมชาติรายใหญ่ที่สุดให้กับยุโรป โดยก๊าซของนอร์เวย์นั้นมีปริมาณความเข้มข้นของก๊าซมีเทนต่ำที่สุดในโลก
มีเทน เป็นก๊าซเรือนกระจกอันดับที่ 2 รองจากคาร์บอนไดออกไซด์ และในระยะสั้นจะมีผลกระทบต่อภาวะโลกร้อนมากกว่า ดังนั้น การลดการปล่อยก๊าซมีเทนอย่างรวดเร็วในทศวรรษนี้มีความสำคัญอย่างยิ่ง หากโลกต้องการหลีกเลี่ยงปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่รุนแรง
ซัพพลายเออร์ต่างประเทศที่ไม่ดำเนินการแก้ไขในกระบวนการผลิต เสี่ยงต่อการถูกลงโทษทางการเงิน ในส่วนของขีดจำกัดการปล่อยก๊าซมีเทนในกระบวนการผลิต จะถูกกำหนดโดยคณะกรรมาธิการยุโรป 1 ปีก่อนที่จะมีผลบังคับใช้ในปี 2573