
เมื่อหมอป่วยเป็นโรคซึมเศร้า ‘Doctor Slump’ ซีรียส์แนวโรแมสติกที่แฝงภาพปัญหา การกดทับของอำนาจในสังคมเกาหลี
นอกจากนี้ เธอได้รับความคาดหวังเป็นอย่างสูงจากแม่ของเธอ เนื่องจากแม่ของเธอนั้น มักจะโอ้อวดผู้คนถึงความสำเร็จของเธอเอง
พล็อตของเรื่อง อาจจะไม่ได้เน้นไปที่ปัญหาของโรคซึมเศร้ามากมายนัก แต่แฝงถึงวิธีการในการต่อสู้กับโรคซึมเศร้าเอาไว้ได้อย่างแยบคาย จากวิธีการที่คนรอบข้างของเธอเข้ามาให้ความช่วยเหลือเธอ ตัวอย่างเช่น แม่ของเธอเองที่ถึงแม้ว่าในทีแรกที่รู้ว่าเธอเป็นโรคซึมเศร้า ก็โกรธและตะคอกใส่เธอ
แต่เมื่อฮานึลหายตัวออกจากบ้าน ซึ่งทำให้แม่ของเธอเป็นกังวลอย่างมาก และกลับมานึกทบทวนตัวเอง ก่อนที่จะส่งข้อความไปบอกเธอว่า “แม่อยากได้ลูกสาวที่สุขภาพแข็งแรง มากกว่าลูกสาวที่ประสบความสำเร็จ ไม่ว่าลูกจะเลือกแบบไหน แม่ก็รักและเป็นห่วงลูกมากกว่านะ” ซึ่งข้อความดังกล่าวทำให้ฮานึลรู้สึกเหมือนได้รับการปลดปล่อย และร้องไห้ออกมาด้วยความยินดี
ตอนนี้เป็นจุดสำคัญที่ชี้ให้เห็นว่า ในการดูแลรักษาผู้ป่วยซึมเศร้านั้น กำลังใจจากครอบครัวคือสิ่งที่สำคัญที่สุด
—
ปัญหาเรื่องการใช้อำนาจกดทับผู้ที่อยู่ต่ำกว่าในสังคมเกาหลีนั้น ซีรียส์เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องแรกที่ฉายภาพให้เห็นถึงปัญหาเหล่านี้ในสังคม แต่ปรากฎอยู่ในซีรีสย์เกาหลีหลาย ๆ เรื่อง ซึ่งทั้งหมดสะท้อนภาพระบบชนชั้นในสังคมเกาหลีที่แข็งกร้าว จนทำให้เกิดการใช้อำนาจกดทับ ขาดธรรมาภิบาล และการเอาเปรียบผู้ใต้บังคับบัญชาในสังคมเกาหลีใต้ และในบางกรณี เลยเถิดไปถึงปัญหาการคุกคามทางเพศอีกด้วย
จากรายงานของ Statista เมื่อวันที่ 2 ก.พ. 2567 รายงานว่าในขณะที่แนวโน้มการฆ่าตัวตายในโลกจะลดลง แต่ในเกาหลีใต้กลับพุ่งสูงมากขึ้น และเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา [1] และเมื่อวันที่ 31 ส.ค. 2566 รายงานว่าในปี 2562 เกาหลีใต้มีอัตราการฆ่าตัวตายสูงที่สุดเป็นอันดับ 4 ของโลก โดยในประชากร 1 แสนคน จะมีคนฆ่าตัวตาย 28.6 คน [2] ในขณะที่ประเทศไทยมีอัตราการฆ่าตัวตายเพียง 7.97 คนจากประชากร 1 แสนคนเท่านั้น [3]
สำหรับในปี 2563 เกาหลีใต้ติดอันดับ 1 ประเทศที่มีผู้หญิงฆ่าตัวตายสูงที่สุดในโลก โดยในผู้หญิงชาวเกาหลีใต้ 1 แสนคน จะมีผู้หญิงฆ่าตัวตาย 14.9 คน [4]
—
ในขณะที่เศรษฐกิจของเกาหลีใต้เติบโตอย่างรวดเร็วในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา ด้วยการอุดหนุนกลุ่มทุนอย่างเต็มที่จนทำให้เกิดกลุ่ม “แชโบล” ซึ่งเป็นกลุ่มตระกูลธุรกิจขนาดใหญ่ในเกาหลีใต้ มีอิทธิพลทางเศรษฐกิจและการลงทุน จนทำให้ในหลายครั้งสมาชิกกลุ่มแชโบลถูกเรียกขานว่า “ราชวงศ์” จากอิทธิพลที่มากล้น
แต่ในทางกลับกัน กฎหมายแรงงานเกาหลียังมีช่องว่างให้เกิดการเอารัดเอาเปรียบชนชั้นแรงงาน ซึ่งในซีรียส์เกาหลีอีกหลายเรื่อง ก็ได้สะท้อนปัญหาเหล่านี้ผ่านฉากการประท้วงของกลุ่มแรงงานที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม และแสดงให้เห็นวิธีการจัดการกับกลุ่มผู้ประท้วงเหล่านี้อย่างไม่เป็นธรรม
อีกทั้งระบบชนชั้นที่มีระบบอาวุโสที่ชัดเจนในสังคมเกาหลีแทบทุกวงการ ตั้งแต่ในบริษัทเอกชน ข้าราชการ และในวงการแพทย์ ปรากฏฉากการใช้อำนาจของผู้ที่มีตำแหน่ง หรือความอาวุโสสูงกว่า รวมไปถึงการให้ผู้ที่อยู่ต่ำกว่า มายืนเข้าแถวรอต้อนรับผู้มีอำนาจสูง ซึ่งระบบอาวุโสเหล่านี้ได้สร้างช่องว่างกดดับคนที่อยู่ข้างล่างเอาไว้อย่างไม่เป็นธรรม
ซีรียส์เกาหลี ในทางหนึ่ง เป็น Soft Power ของประเทศในการสร้างความนิยมในประเทศเกาหลีต่อนานาชาติ สร้างรายได้เข้าประเทศได้มากมายมหาศาล แต่ในอีกทางหนึ่ง ก็สะท้อนปัญหาของประเทศตนเองออกมาได้อย่างสมจริง และกล้าหาญ
จนอาจจะกล่าวได้ว่า ซีรีสย์เกาหลีนั้น เป็นอีกหนึ่ง Soft Power ของชนชั้นแรงงานของประเทศ ในการต่อสู้กับปัญหาความไม่เป็นธรรมในสังคม ด้วยการก่อให้เกิดการตระหนักรู้ถึงปัญหาในสังคมได้อย่างน่าชื่นชม
อ้างอิง
[1] Suicide in South Korea – statistics & facts, https://www.statista.com/topics/8622/suicide-in-south-korea/#topicOverview
[2] Leading 20 countries based on suicide mortality rate in 2019, https://www.statista.com/statistics/710710/ranking-of-leading-20-countries-with-highest-suicide-mortality-rates/
[3] International Association for Suicide Prevention, https://www.iasp.info/bangkok2024/aboutthailand/
[4] Suicide rates in selected countries as of 2020, by gender, https://www.statista.com/statistics/236567/number-of-suicides-in-selected-countries-by-gender/