ปชป.จัดหนัก ‘บิ๊กตู่’ชี้หากไม่ได้เป็นนายกฯ ก็จะทิ้งประชาชนอัดไม่มีความเป็นนักการเมืองมืออาชีพ
เมื่อวันที่ 23 เม.ย.2566 นายธนา ชีรวินิจ อดีตโฆษกพรรคประชาธิปัตย์, เลขานุการ รมว.เกษตรและสหกรณ์ และ ผู้สมัคร ส.ส. เขตดินแดง พญาไท หมายเลข 9 กล่าวปราศรัยในเวทีที่วงเวียนใหญ่ โดยมีใจความวิพากษ์ พล.อ.ประยุทธ์ ว่าไม่กล้าลง ส.ส. และหากไม่ได้เป็นนายกฯ ก็พร้อมจะทิ้งประชาชนที่เลือกตนเอง
ย้ำบิ๊กตู่ยิ่งอยู่นานสังคมยิ่งแตกแยก ชี้ทางรอดประเทศคือ ต้องได้นักการเมืองมืออาชีพ ที่เข้าใจประชาธิปไตย เคารพเสียงส่วนใหญ่และความเห็นต่างอย่าง ‘พรรคประชาธิปัตย์’
นายธนา กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ ประกาศร่วมจัดตั้งพรรค รทสช.ไม่กี่เดือนก่อนเลือกตั้ง พรรคการเมืองจะเกิดขึ้นต้องมีอุดมการณ์เดียวกัน บอกอาสาทำงานให้ประชาชนอีก 2 ปี ทำแล้ว ทำอยู่ ทำต่อ พล.อ.ประยุทธ์ แต่ดู 4 ปีที่ผ่านมาประชาชนได้รับการดูแลในเรื่องจำเป็นมากน้อยเพียงใด
เช่น พรรคพลังประชารัฐรับผิดชอบเรื่องพลังงานแต่กลับปล่อยให้ราคาสูงขึ้นทุกวัน พอมีเลือกตั้งกลับบอกว่าจะเสนอคณะรัฐมนตรี(ครม.) และคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ลดค่าไฟฟ้า ถามว่าอยู่มา 8 ปี ไม่ดูแล ถ้าไม่มีเลือกตั้งตนเองเชื่อว่าจะไม่กระตือรือร้นขนาดนี้
“มาเป็นนักการเมืองระบอบประชาธิปไตย แต่ไม่เป็น ส.ส. ทำอย่างเดียวคือให้พรรคเสนอตัวเองเป็นนายกในบัญชีรายชื่อของรวมไทยสร้างชาติ ผมต้องบอกความจริงว่าถ้ารวมไทยสร้างชาติได้ ส.ส.ไม่ถึง 25 คน ไม่มีสิทธิเสนอชื่อพล.อ.ประยุทธ์เป็นนายก นั่นหมายความว่าพล.อ.ประยุทธ์กลับบ้าน หรือถ้าได้มากกว่า 25 คน แต่ไม่สามารถรวบรวมเสียงได้เกินกึ่งหนึ่งของสองสภา พล.อ.ประยุทธ์ก็ไม่มีสถานะทางการเมืองในการดูแลประชาชนเลย”
“ถามว่าใจดำหรือไม่ บอกประชาชนว่าจะอาสารับใช้พี่น้องประชาชนขอเวลาอีก 2 ปี แต่ถ้าตัวเองไม่ได้เป็นนายกก็กลับบ้านเลย เมื่อไม่ได้ในสิ่งที่ตัวเองต้องการก็กลับบ้าน แล้วคนที่ออกมาเลือกรวมไทยสร้างชาติกับ พล.อ.ประยุทธ์ ก็จะไม่มีใครทำงานให้ เพราะทิ้งเขาไปแล้ว ไม่แก้ปัญหาที่อ้างว่ามีทับถมประเทศ
“ผมจึงจำเป็นต้องกราบเรียนพี่น้องว่าเวลาดูพรรคการเมืองต้องดูให้ขาด ว่าตั้งใจมาแก้ไขปัญหาอย่างที่พูดหรือไม่” นายธนา กล่าว
นายธนา กล่าวต่อว่า หัวหน้าบางพรรคการเมืองประกาศใครไม่เห็นด้วยกับประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 จะเชิญให้ไปอยู่ต่างประเทศ ประเทศไทยถึงจุดขัดแย้งรุนแรงแน่นอน
ประชาธิปัตย์ยืนยันปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์และไม่ให้แก้ไขมาตรา 112 แต่วิธีการที่จะทำเรื่องนี้ คือคุณไม่มีสิทธิ์ผลักคนไทยที่มีแนวคิดไม่ตรงกับคุณไปเป็นศัตรู ประเทศไม่ใช่ของใครคนใดคนหนึ่ง แต่ต้องทำความเข้าใจกับคนเห็นต่างในเวลาที่เป็นผู้บริหารประเทศ
“ในวันที่ประชาธิปัตย์เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลคนทำผิดมาตรา 112 ก็ต้องปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด ขณะเดียวกันเราจะไม่เลือกปฏิบัติด้วยอคติ เพราะถ้าทำแบบนั้นเมื่อใด ประเทศชาติแตกแยกอีกครั้งแน่นอน ต้องให้ความรู้กับคนเห็นต่าง หลายคนรับข้อมูลด้านเดียว”
“เลือกตั้งเที่ยวนี้ถ้ามีคนเคยทำสำเร็จในการคิดสโลแกนก่อนเลือกตั้งว่า ความสงบจบที่ลุงตู่ แต่วันนี้ด้วยแนวคิดของพรรคการเมืองเช่นนี้ ยืนยันและเชื่อมั่นว่า เมื่อลุงตู่กลับมาเมื่อใดความขัดแย้งเริ่มต้นอย่างแน่นอน ทั้งนี้ ทางรอดของประเทศจะต้องได้นักการเมืองอาชีพที่เข้าใจการปกครองระบอบประชาธิปไตย เคารพเสียงส่วนใหญ่และความเห็นต่าง เชื่อมั่นประชาธิปัตย์ หมายเลข 26”