
เราไม่อยากเชื่อว่าคุณจุรินทร์จะพาพรรคมาอยู่จุดนี้ ชวน หลีกภัย อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ วันที่ 6 ธ.ค. 66
เมื่อวันที่ 6 ธ.ค. 66 นายชวน หลีกภัย อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และ สส.บัญชีรายชื่อให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวทูเดย์ โดยในช่วงหนึ่งนายชวนถูกถามว่าพรรคประชาธิปัตย์กำลังอยู่ในขาลงหรือไม่ ?
“ผมว่าพูดได้ครับ พูดได้ว่าเป็นช่วงเวลาที่พรรคมีปัญหา แล้วก็ไม่เคยตกต่ำอย่างนี้ ไม่เคยมีถึงขั้นแพ้เลือกตั้งหมด (ส.ส.) บัญชีรายชื่อได้ 3 คน ไม่เคยมีสมาชิกละเมิดข้อบังคับ 77 ปีตั้งมาก็ไม่เคยมี นี่ก็เป็นช่วงเวลาที่มีปัญหาอันหนึ่ง” นายชวนตอบ
อย่างไรก็ดี นายชวนกล่าวว่าสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ต้องรับผิดชอบร่วมกันในฐานะที่เลือกนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ เป็นหัวหน้าพรรค, เลือกนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เป็นเลขาธิการพรรค และเลือกคนอื่น ๆ อีก 30 กว่าคนเป็นกรรมการบริหารพรรค
“การเลือกคุณจุรินทร์ ผม ท่านบัญญัติ (บรรทัดฐาน) คุณอภิสิทธิ์ (เวชชาชีวะ) 3 คนนี้ช่วยกัน ว่าคุณจุรินทร์น่าจะเป็นหัวหน้าพรรคได้นะ ถ้าเรา 3 คนไม่ช่วยคุณจุรินทร์ก็แพ้ เพราะว่าคนอื่น ๆที่แข่งเค้าก็มีศักยภาพ” นายชวนกล่าว
“ในที่สุดคุณจุรินทร์ชนะ แต่เราไม่อยากเชื่อว่าคุณจุรินทร์จะพาพรรคมาอยู่จุดนี้” นายชวนกล่าวต่อ
นายชวนยังกล่าวถึงการเลือกตั้งปี 66ที่ผ่านมาโดยระบุว่า “เป็นการเลือกตั้งครั้งที่ย่อหย่อนที่สุด ไม่มี War Room ไม่มีการรณรงค์แบบที่เราเคยทำในอดีต เลขาธิการพรรคซึ่งเป็นตัวหลักไม่ลงเลือกตั้ง” นายชวนกล่าวว่าตนเองไม่ได้มีตำแหน่งอะไร เป็นเพียง 1 เสียง แต่ก็ช่วยในการรณรงค์เพื่อให้เลือกบัญชีรายชื่อ “แต่ว่าเราไม่ได้โฆษณาบัญชีรายชื่อเลย” นายชวนกล่าว
“ผมไปต่างจังหวัดนะครับ ชาวบ้านถาม ท่านนายกชวน เบอร์ 26 (หมายเลขปาร์ตี้ลิสต์ของพรรคประชาธิปัตย์) คืออะไร? พรรคไม่ได้ทำเรื่องนี้ ผลออกมาก็อย่างที่ปรากฏอยู่ขึ้นมา ซึ่งเราไม่เคยเจออย่างนี้” นายชวนกล่าว ซึ่งถึงแม่นายชวนจะระบุว่ากรรมการบริหารพรรคต้องรับผิดชอบ แต่ตนเองไม่อยากจะซ้ำเติม ให้ถือว่าเป็นบทเรียน
“ช่วงคุณจุรินทร์เป็นหัวหน้าพรรคนี่ คนออกจากพรรคมาก แล้วก็มาลาผม ผมห้ามเค้าเกือบทุกคนนะ บางคนห้ามไม่ได้ก็บอกว่าไปดีนะ เช่นคุณกรณ์ ก็บอกกรณ์ขออยู่เถอะ อย่าไปเลย ผมขอร้องว่าอย่าไปเลย อยู่ด้วยกันเถอะ แต่คุณกรณ์เค้าก็ให้เหตุผลว่าเค้ามีปัญหาครอบครัว” นายชวนกล่าว
นายชวนยังกล่าวชื่นชมหมอวรงค์-นายแพทย์วรงค์ เดชกิจวิกรมในการหาข้อมูลทุจริตคดีจำนำข้าว โดยระบุว่าถึงแม้ว่าจะมีหลายคนช่วย แต่หมอวรงค์ก็เป็นตัวหลักในคดีนี้ สืบค้นหาข้อมูลเองทั้งหมด ซึ่งในสมัยนั้นถือว่าไม่ง่ายเลย
“สมัยก่อน สื่อมวลชนเค้าจะบอกว่า ส.ส. เนี่ย เอาข้อมูลจากสื่อไปอภิปราย แต่กรณีอย่างนี้เป็นข้อมูลทึ่เค้า (หมอวรงค์) ค้นหามาเอง แล้วก็ทำได้สำเร็จ” นายชวนกล่าว และระบุว่าตนเองพยายามขอร้องไม่ให้คนเหล่านี้ออก แต่พวกเขาก็ออกไป
“เหตุผลอันหนึ่ง (ที่เค้าออกไป) หนึ่งเค้าก็อยากเป็นตัวตน สองเค้าก็ไม่พร้อมจะรับท่านจุรินทร์” นายชวนกล่าว และกล่าวต่อว่า 1 ปีก่อนการเลือกตั้ง มันมีแนวโน้มว่าจะปลดคุณจุรินทร์ออกจากพรรค แต่ตนเองเป็นคนหนึ่งที่ขอร้องว่าอย่าทำเลย พรรคเราไม่เคยทำอย่างนี้กัน
“แต่พวกนั้นเขาก็บอกว่า ท่านครับ ความนิยมคนไม่มีเลย ส.ส. บางคนมาบอกลาออกจากพรรค บอกว่าเปลี่ยนหัวหน้าใหม่ วันหลังจะมาใหม่ อันนี้ผมก็เล่าให้ท่านจุรินทร์ฟังเหมือนกัน แต่ผมก็ให้กำลังใจเค้านะ เพราะผมเห็นเค้าเป็นคนมีความสามารถคนหนึ่ง ก็คือเป็นเลขาผม เมื่อครั้งที่ผมเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข” นายชวนกล่าว
นายชวนระบุว่าในสมัยนั้น ตนเองกับคุณจุรินทร์ทำโครงการต่าง ๆ ด้วยกันมาและประสบความสำเร็จ ถือว่ามีความสามารถ แต่ว่าพอมาเป็นหัวหน้าพรรค ทางพรรคกลับไม่ประสบความสำเร็จ
“พูดได้ว่าล้มเหลวมั้ย ? ผมว่าก็พูดได้ว่ามันไม่ประสบความสำเร็จ จะใช้คำหนักว่าล้มเหลวก็พูดได้ แต่ผมก็บอกท่านจุรินทร์ว่าเมื่อรักษาการณ์หัวหน้าพรรคอยู่ ต่อไปนี้บทบาทในสภา ไม่มีใครเหนือกว่าคุณจุรินทร์หรอก ขอให้เค้ารักษาจุดนี้เอาไว้
เพราะว่าเค้าเป็นคนมีความสามารถในสภา ไม่กี่คนนะครับในสภา ที่จะสามารถสรุปในเวลาอภิปราย ไม่ไว้วางใจ สรุปได้ดี ในสภา จุรินทร์ก็เป็นหนึ่งในคนไม่กี่คนที่มีความสามารถ แต่ว่าในการบริหาร บางคนก็ไม่ประสบความสำเร็จ” นายชวนกล่าว