
ความต้องการน้ำมันในจีนลด Eurasia Group คาดการณ์ว่าความต้องการน้ำมันของจีนโตเพียงครึ่งหนึ่ง ก่อนการระบาดโควิด-19 เหตุภาคส่วนอสังหาฯ-ยานยนต์ชะลอตัว
ยูเรเซีย กรุ๊ป (Eurasia Group) บริษัทให้คำปรึกษาด้านความเสี่ยงทางการเมืองของสหรัฐฯ ระบุว่า อุปสงค์น้ำมันของจีนในปีนี้อาจเติบโตเพียงครึ่งหนึ่งของระดับก่อนการระบาดของโควิด-19 เนื่องจากภาคส่วนอสังหาฯ-ยานยนต์ ซึ่งเป็นภาคธุรกิจหลักที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจจีนและอุปสงค์น้ำมันเผชิญปัญหาจากภาวะชะลอตัว
Eurasia Group คาดการณ์ว่า อุปสงค์น้ำมันของจีนจะเติบโตประมาณ 250,000-350,000 บาร์เรลต่อวัน ซึ่งไม่ถึงครึ่งหนึ่งของระดับเมื่อปี 2019 และการเติบโตของอุปสงค์น้ำมันจะไม่กลับไปสู่ระดับล้านบาร์เรลต่อวันเหมือนอย่างในปี 2015-2020
Eurasia Group ยังระบุด้วยว่า แม้ว่าภาคอสังหาริมทรัพย์ของจีนจะฟื้นตัว แต่เป็นไปไม่ได้ที่อุปสงค์น้ำมันจีนจะกลับมาเติบโตเท่ากับระดับก่อนการระบาดของโควิด-19 เมื่อพิจารณาจากระดับหนี้ของประเทศที่เพิ่มสูงขึ้น จำนวนประชากรที่ลดลง และการคาดการณ์การเติบโตของ GDP ที่ลดลง
นอกจากนี้ จีนยังจะสูญเสียสถานะประเทศที่ขับเคลื่อนความต้องการใช้น้ำมันโลกรายใหญ่ที่สุดให้กับอินเดียไปจนถึงปี 2030
JPMorgan ระบุว่า การบริโภคน้ำมันของจีนแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 16.03 ล้านบาร์เรลต่อวันในปีที่แล้ว หรือเพิ่มขึ้น 1.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน โดยได้รับอานิสงส์จากการที่จีนเพิ่มการนำเข้าน้ำมันดิบในช่วงที่ราคาตกต่ำ และการเดินทางในประเทศที่เพิ่มขึ้น หลังจากที่รัฐบาลจีนยกเลิกมาตรการคุมเข้มโควิด อย่างไรก็ตาม ปัจจัยที่หนุนการเติบโตของอุปสงค์น้ำมันในปีที่แล้วจะหายไปในปีนี้