อย่าประมาทไป ผลวิจัยธนาคารกลางเกาหลีชี้ ผู้มีการศึกษาสูง-รายได้สูง ไม่ได้เสี่ยงตกงานจาก AI น้อยกว่าผู้ใช้แรงงาน

รายงานจากธนาคารกลางเกาหลีใต้ (BOK) เผยเมื่อวันพฤหัสบดี (16 พ.ย.) ว่า อาชีพ แพทย์ นักบัญชี ผู้จัดการทรัพย์สิน และนักกฎหมาย มีแนวโน้มที่จะถูกแทนที่ด้วยปัญญาประดิษฐ์ (AI) มากกว่าเมื่อเทียบกับพนักงานในภาคบริการ

รายงานดังกล่าวท้าทายความเชื่อเดิมที่ว่าหุ่นยนต์เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์อัจฉริยะ และเทคโนโลยีซอฟต์แวร์ที่เกี่ยวข้อง จะส่งผลกระทบมากกว่าต่อผู้ที่เรียนไม่สูงและมีรายได้น้อยกว่า ที่ต้องทำงานหนักซ้ำซาก

กลุ่มอาชีพที่มีการศึกษาสูงและมีรายได้สูง มักจะทำงานวิเคราะห์องค์ความรู้ในลักษณะที่ไม่ซ้ำซาก แต่นั่นก็เป็นพื้นที่ซึ่ง AI ที่ขับเคลื่อนด้วยการวิเคราะห์ข้อมูล สามารถแซงหน้าได้อย่างรวดเร็วในอีก 20 ปีข้างหน้าเช่นกัน

รายงานยังระบุด้วยว่า อาชีพที่ต้องมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์ การสร้างเครือข่าย และงานที่มุ่งเน้นการเอาใจใส่ จะไม่ได้รับผลกระทบมากนัก โดยธนาคารกลางเกาหลีใต้ประเมินว่าราว ร้อยละ 12 ของตำแหน่งงานทั้งหมด หรือประมาณ 3.41 ล้านตำแหน่ง มีแนวโน้มที่จะถูกแทนที่ด้วย AI

งานที่มีความเสี่ยงสูงสุดที่จะถูกแทนที่ด้วย AI ได้แก่ วิศวกรสิ่งแวดล้อม วิศวกรเสียง วิศวกรบันทึกและตัดต่อวิดีโอ ผู้ควบคุมอุปกรณ์ผลิตและจำหน่ายไฟฟ้า คนขับรถไฟ-รถไฟฟ้า พนักงานควบคุมระบบบำบัดน้ำเสียพนักงานควบคุมเครื่องจักรรีไซเคิลและเตาเผาขยะ และพนักงานตรวจสอบตั๋ว

ส่วนพนักงานที่ให้บริการแบบตัวต่อตัว (Face-to-Face service) ในอุตสาหกรรมศิลปะ กีฬา สันทนาการ และศาสนา เช่น นักข่าว นักร้อง ครูสอนเต้นรำ หมอดู นักบวช นักสังคมสงเคราะห์ พนักงานองค์กรพัฒนาเอกชน สัปเหร่อ และบอดี้การ์ด มีความเสี่ยงต่ำกว่ามาก เนื่องจาก AI ไม่สามารถดำเนินการแลกเปลี่ยนระหว่างบุคคลและการสร้างความสัมพันธ์ที่ขับเคลื่อนด้วยอารมณ์และความเห็นอกเห็นใจได้

โดยผู้ชายมีแนวโน้มที่จะถูกแทนที่ด้วย AI มากกว่าผู้หญิง เนื่องจากผู้หญิงมีจำนวนมากกว่าผู้ชายในอุตสาหกรรมที่ให้บริการแบบตัวต่อตัว 

ธนาคารกลางเกาหลีใต้ ระบุว่า ความต้องการแรงงานที่ต้องการความก้าวหน้าในอนาคตในภาควิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรม และคณิตศาสตร์ จะยังคงแข็งแกร่ง เนื่องจากรากฐานของการเติบโตที่มั่นคงในระยะยาวจะเป็นตัวกำหนดความสามารถในการแข่งขันของเศรษฐกิจของประเทศ