
Woke สร้างวิกฤตสุขภาพจิต นักวิชาการสหรัฐฯ ระบุการศึกษาแบบยัดเยียดแนวคิด Wokism กำลังทำให้เกิดวิกฤตสุขภาพจิตในหมู่เด็กและเยาวชน
Nicholas Giordano ศาสตราจารย์ด้านรัฐศาสตร์ แห่ง Suffolk Community College ได้เผยแพร่บทความวิชาการผ่านสำนักข่าว Fox News ในสหรัฐ โดยระบุว่า การที่ลัทธิการตื่นรู้ (Wokeism) เข้ามามีอิทธิพลกับการศึกษา กำลังทำให้หนุ่มสาวชาวอเมริกันต้องประสบกับวิกฤตสุขภาพจิตที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
ผลสำรวจความคิดเห็นโดย Gallup เผยชาวอเมริกันมี “ความสุข” ลดลง ซึ่งเป็นการตอกย้ำหลักฐานที่บ่งชี้ว่าสหรัฐฯ กำลังเผชิญกับวิกฤตสุขภาพจิต การฆ่าตัวตายเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับ 2 ในหมู่เยาวชนที่มีอายุระหว่าง 10-14 ปี และคนหนุ่มสาวอายุระหว่าง 20-34 ปี นอกจากนี้ 55% ของคนหนุ่มสาวอายุต่ำกว่า 30 ปีต้องทนทุกข์ทรมานจากความวิตกกังวล และ 47% รู้สึกหดหู่และ/หรือสิ้นหวัง
Giordano ระบุว่า ในฐานะอาจารย์วิทยาลัย เขาไม่เพียงสังเกตเห็นการเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญของจำนวนนักเรียนที่ต้องดิ้นรนกับอาการป่วยทางจิตเท่านั้น แต่ยังได้เห็นหลักสูตรแบบ DEI (ความหลากหลาย ความเสมอภาค และการไม่แบ่งแยก) มาแทนที่หลักสูตรแบบดั้งเดิม ตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาลจนถึงระดับอุดมศึกษา
หลักสูตรการศึกษาที่ให้ความสำคัญกับลัทธิการตื่นรู้ (wokeism) ในขณะที่ค่านิยมทางวัฒนธรรมแบบดังเดิมกำลังลดลงเรื่อยๆ กำลังกระตุ้นให้เกิดวิกฤตสุขภาพจิตในหมู่คนหนุ่มสาว ซึ่งนำไปสู่ความวิตกกังวล ความซึมเศร้า และความทุกข์ที่เพิ่มขึ้น หากสังคมอเมริกันยังไม่รีบเปลี่ยนแนวทางดังกล่าว จะทำให้คนหนุ่มสาวในสังคมอมเริกันจมดิ่งสู่ความสิ้นหวัง
ระบบการศึกษาของเราเปลี่ยนจากการปลูกฝังความรู้และทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณ ไปเป็นการปลูกฝังและฝึกอบรมนักกิจกรรมผ่านโครงการริเริ่มต่างๆ ของ DEI
โรงเรียนกว่า 4,500 แห่งทั่วสหรัฐฯ ได้นำหลักสูตรซึ่งพัฒนามาจาก “โครงการ 1619” อันน่าอดสูมาใช้ ซึ่งส่งเสริมให้เกิดความแตกแยก และตีกรอบอเมริกาให้เป็นประเทศแห่งการกดขี่โดยเนื้อแท้
โครงการ 1619 ยัดเยียดความรู้สึกผิดและการตกเป็นเหยื่อให้กับบุคคลตามลักษณะของเชื้อชาติและชาติพันธุ์ สิ่งนี้กระตุ้นให้เกิดความอับอาย ความขุ่นเคือง และความบาดหมางกัน ซึ่งนำไปสู่ภาวะซึมเศร้าและวิตกกังวลมากขึ้น แทนที่จะมุ่งความสนใจไปที่สิ่งที่รวมเราเป็นหนึ่งเดียวกันในฐานะชาวอเมริกัน… ระบบการศึกษาของเรากำลังทำลายหลักการที่สำคัญต่อความสำเร็จของประเทศ
เจ้าหน้าที่การศึกษายังใช้กลวิธีสร้างความกลัวเมื่อสอนเกี่ยวกับหัวข้อทางการเมือง เช่น การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ รัฐต่างๆ ได้ออกคำสั่งอย่างรวดเร็วให้สอนเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในทุกระดับชั้นและทุกวิชา แต่ปัญหาอยู่ที่วิธีการสอน การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศถูกตีกรอบว่าเป็น “ความยุติธรรมด้านสภาพอากาศ” และนักศึกษาได้รับการบอกเล่าว่ามนุษยชาติจะพินาศในหายนะของสภาพอากาศซึ่งพวกเขาต้องรับผิดชอบ
การตื่นตระหนกเรื่องสภาพภูมิอากาศส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อสุขภาพจิตของคนหนุ่มสาวชาวอเมริกัน โดยผู้ตอบแบบสอบถาม 75% แสดงความกังวลเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ขณะที่ 67% มีความหวาดกลัวต่อสภาพอากาศ
นอกจากนี้ การสอนของอาจารย์ที่บอกว่า “การมีลูก = เห็นแก่ตัว” ยิ่งทำให้คนหนุ่มสาวมีความกังวลมากขึ้นไปอีก ในขณะเดียวกันก็ส่งผลเสียต่อหน่วยครอบครัวด้วย โดยผลสำรวจระบุว่า ปัจจุบันมีเพียง 23% ของผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 30 ปีเท่านั้นที่เชื่อว่าการมีลูกเป็นสิ่งสำคัญในชีวิต
การวิจัยชี้ว่าการแต่งงาน ครอบครัว และความศรัทธา เป็นองค์ประกอบของความสุขของมนุษย์และชีวิตที่สมบูรณ์ หน่วยครอบครัวมอบความรัก มิตรภาพ การสนับสนุน และเป้าหมายในชีวิต แบบที่ไม่สิ่งอื่นใดในโลกสามารถให้ได้ ขณะที่การศึกษาแบบแนวคิด woke ลดทอนการรู้จักคุณค่าในตัวเองและการมีเป้าหมายในชีวิต ซึ่งจำเป็นต่อการมีสุขภาพจิตที่ดี
ไม่มีโครงการของรัฐบาลหรือโครงการทางสังคมใดสามารถแทนที่สิ่งนี้ได้ เด็กที่มาจากครอบครัวที่มั่นคงมีแนวโน้มที่จะเจริญรุ่งเรืองและมีโอกาสประสบปัญหาสุขภาพจิตน้อยกว่า
โรงเรียนควรเป็นประสบการณ์ที่ทำให้นักเรียนหาเป้าหมายในชีวิตเจอ โดยเฉพาะในระดับวิทยาลัย จำนวนชาวอเมริกันที่สำเร็จการศึกษาระดับวิทยาลัยเพิ่มขึ้น 2 เท่า แล้วเหตุใด 58% ของคนหนุ่มสาวจึงรู้สึกว่าพวกเขาขาดเป้าหมายในชีวิต และ 50% รู้สึกมืดแปดด้าน? สิ่งนี้บ่งชี้ว่ามีบางอย่างผิดปกติในระบบการศึกษาของเราอย่างชัดเจน
ที่มา:
[1] https://www.foxnews.com/opinion/americas-woke-education-fueling-mental-health-crisis