
ปรากฏการณ์ขี้วาฬเปลี่ยนน้ำทะเลเป็นสีเขียวเกิดขึ้นจากอะไร ส่งผลกระทบอย่างไร
จากกรณีที่มีการเผยแพร่ภาพน้ำทะเลสีเขียวที่หาดตาแวน เกาะล้าน จังหวัดชลบุรีกันอย่างแพร่หลายในโซเชียลมีเดีย ซึ่งสร้างความกังวลแก่โซเชียลมีเดียนั้น จากการตรวจสอบพบว่าปรากฏการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเฉพาะที่หาดตาแวนเพียงแห่งเดียว ในขณะที่หาดอื่นบนเกาะล้านนั้นไม่มี
ปรากฏการณ์ดังกล่าวมีชื่อเรียกสามัญว่า “ปรากฏการณ์ขี้วาฬ” และมีชื่อเรียกทางวิทยาศาสตร์ว่า “แพลงก์ตอนบลูม (Plankton Bloom) หรือ บลูมสาหร่าย (Algal/ Algae Bloom) เป็นปรากฏการณ์ที่น้ำทะเลเปลี่ยนสีไปจากปกติ (Water Discoloration) ซึ่งอาจเปลี่ยนเป็นสีเขียว, สีแดง หรือสีส้มก็ได้
สาเหตุเกิดขึ้นจากการเติบโตที่มากผิดปกติของสาหร่าย (Alga) ขนาดเล็ก ซึ่งสีของน้ำทะเลที่เปลี่ยนไปนั้นขึ้นอยู่กับชนิดของสาหร่ายจำพวกนี้ โดยสีเขียวเกิดจากสกุลนอคติลูกา ( Noctiluca sp.) ในประเทศไทยอาจพบปรากฏการณ์นี้ได้ในหน้าฝน เนื่องจากฝนที่ตกลงมาจำนวนมากได้ชะล้างเอาปุ๋ยเคมีจากหน้าดินลงสู่ทะเล ปรากฏการณ์ดังกล่าวสามารถเกิดขึ้นได้ทั้งในทะเลและแหล่งน้ำจืดอีกด้วย
นอกจากนี้ การทิ้งน้ำเสียลงสู่แม่น้ำ และทะเลเองก็เป็นอีกหนึ่งในสาเหตุของการเปิดปรากฏการณ์ขี้วาฬด้วยเช่นกัน เนื่องจากของเสียที่ไหลมากับน้ำบางส่วนช่วยเร่งการเติบโตของสาหร่ายและแพลงก์ตอนพืช (Phyto Plankton) ได้ด้วยเช่นกัน เราจึงอาจสรุปได้ว่า สาเหตุของปรากฏการณ์มาจากการทำการเกษตรโดยใช้ปุ๋ยเคมี และการทิ้งน้ำเสียลงสู่แหล่งน้ำนั่นเอง
สำหรับปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นที่หาดตาแวน เกาะล้าน จังหวัดชลบุรี มาจากสาหร่ายสีเขียวซึ่งถึงแม้ว่าจะไม่เป็นพิษต่อมนุษย์และสิ่งมีชีวิตในระบบนิเวศทางทะเลในบริเวณนั้นโดยตรง แต่การปกคลุมของสาหร่ายเหล่านั้น ทำให้เกิดการใช้ออกซิเจนใต้ทะเลที่มากเกิดปกติ จนทำให้จุลินทรีย์จำพวกไม่ใช้ออกซิเจน (Anaerobic Bacteria) เติบโตและส่งกลิ่นเหม็น อีกทั้งยังทำให้สิ่งมีชีวิตบางชนิดในบริเวณนั้นขาดออกซิเจนตาย
อย่างไรก็ตาม กระแสน้ำทะเล และคลื่นลม จะช่วยให้สาหร่ายเหล่านั้นกระจายตัวออกไปในบริเวณอื่นในที่สุด จนน้ำทะเลกลับคืนสภาพเป็นปกติ