จีนคุมเข้มนมผงทารก ออกกฎใหม่เพื่อเข้มงวดมาตรฐาน เขย่าตลาดนมผงที่กำลังหดตัว
การบังคับใช้มาตรฐานสารอาหารที่เข้มงวดที่สุดในโลกกับอุตสาหกรรมนมผงทารก จะเป็นการบีบให้แบรนด์ต่างๆ ถอนตัวจากตลาดจีนที่กำลังหดตัวจากอัตราการเกิดที่ต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ นักวิเคราะห์ ระบุ
กฎใหม่ที่รัฐบาลจีนบังคับใช้เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา บังคับให้ผู้ผลิตนมผงทารกต้องลงทุนมหาศาลเพื่อปรับสูตร ทดสอบ รับรอง และลงทะเบียนผลิตภัณฑ์ของตน ก่อนที่จะสามารถทำแคมเปญการตลาดใหม่อีกครั้ง
นักวิเคราะห์ระบุว่า ความเคลื่อนไหวดังกล่าวจะยิ่งเขย่าอุตสาหกรรมนมผงทารกในจีน ซึ่งได้รับผลกระทบอย่างจังจากการลดลงของจำนวนประชากรของจีน โดยแบรนด์ในประเทศและต่างประเทศที่ใหญ่กว่ามีแนวโน้มที่จะได้ส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มขึ้นหลังจากที่แบรนด์ขนาดเล็กล้มหายตายจากไป
“มาตรฐานใหม่ต้องการยกระดับคุณภาพของผลิตภัณฑ์รวมถึงเทคนิคด้านการผลิต ซึ่งคาดว่าจะกำจัดธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) จำนวนมาก” ควินน์ ไม นักวิเคราะห์จาก Euromonitor International กล่าว พร้อมประเมินว่าตลาดนมผงสำหรับทารกของจีนจะลดลง 12.5% เป็น 2.1 หมื่นล้านดอลลาร์ (ราว 7.32 แสนล้านบาท) ภายในปี 2568 เนื่องจากอุปสงค์ที่ลดลง
ข้อกำหนดใหม่ของจีนได้แก้ไขค่าต่ำสุดและสูงสุดของสารอาหารบางชนิด เช่น ซีลีเนียม แมงกานีส และโคลีน รวมถึงปริมาณแลคโตส และแบนการใช้ฟรุกโตสและซูโครสในผลิตภัณฑ์ ซึ่งผู้เชี่ยวชาญอธิบายว่าข้อบังคับที่เข้มงวดที่สุดในโลกนี้ มีเป้าหมายเพื่อให้ผลิตภัณฑ์นมผงทารกมีความใกล้เคียงนมแม่มากที่สุด
ในปี 2551 ทารกทั่วโลกอย่างน้อย 6 คนเสียชีวิต และมากกว่า 300,000 คนล้มป่วยจากนมผงทารกจีนที่ปนเปื้อนเมลามีน ซึ่งเป็นสารเคมีพิษที่ใช้ในการเพิ่มปริมาณไนโตรเจนในนม เพื่อให้ผลวิเคราะห์ปริมาณโปรตีนออกมาได้ตามมาตรฐาน โดยเหตุการณ์อื้อฉาวของอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์นมของจีนในครั้งนั้น ยังคงมีอิทธิพลต่อความไว้วางใจของผู้บริโภคจนถึงทุกวันนี้
รายงานของนักวิเคราะห์ ระบุว่า หน่วยงานกำกับดูแลของจีนได้อนุมัติแบรนด์นมผงทารกแล้วกว่า 200 แบรนด์ โดยคาดว่าจะมีอีกเพียงไม่กี่แบรนด์ที่จะได้รับการอนุมัติในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ ทั้งนี้ ก่อนที่ทางการจีนจะบังคับใช้กฎใหม่ มีแบรนด์นมผงกว่า 400 แบรนด์ที่ต่อสู้เพื่อแย่งชิงส่วนแบ่งตลาดนมผงทารกของจีน
อัตราการเกิดของจีนในปีที่แล้วอยู่ในระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่เพียง 6.77 ต่อประชากร 1,000 คน โดยผู้เชี่ยวชาญขององค์การสหประชาชาติ (UN) คาดการณ์ว่าประชากรจีนจะลดลงราว 109 ล้านคนภายในปี 2593
(1 ดอลลาร์ = 34.86 บาท)