5 สถาบันเตือน! เศรษฐกิจเยอรมนีอาจถดถอยหนัก หากตัดอุปกรณ์ก๊าซจากรัสเซียอย่างกระทันหัน!
Stefan Kooths รองประธานและผู้อำนายการฝ่ายวิจัย วัฏจักรและการเติบโตทางธุรกิจ แห่ง Kiel Institute for the World Economy (IfW) กล่าวเมื่อวันพุธ (13 เม.ย.) ว่า เยอรมนีอาจเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยครั้งใหญ่หากตัดอุปทานก๊าซจากรัสเซียอย่างกะทันหัน
ซึ่งรัฐบาลเยอรมนีก็เห็นไปในทิศทางเดียวกัน โดยกล่าวว่า สงครามรัสเซีย-ยูเครน จะทำให้เศรษฐกิจของประเทศพบกับความเสี่ยงครั้งใหญ่
ผลกระทบอันไม่พึงประสงค์จากการตัดอุปทานพลังงานจากรัสเซียอย่างกะทันหัน จะทำให้อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจชะลอตัวไปอยู่ที่ 1.9% ในปีนี้ ซึ่งจะส่งผลให้อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจในปี 2023 หดตัว 2.2%
จากรายงานการคาดการณ์ฉบับแก้ไขที่ยืนยันแล้วโดย RWI, DIW, Ifo , IfW และ IWH สถาบันวิจัยทางเศรษฐกิจทั้ง 5 ของเยอรมนี ได้หั่นคาดการณ์อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจในปี 2022 เป็น 2.7% จากเดิม 4.8% และคาดการณ์อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจประจำปี 2023 ไว้ที่ 3.1%
นอกจากนี้ สถาบันทั้ง 5 ยังได้คาดการณ์ว่า หากยุติการนำเข้าพลังงานจากรัสเซียอย่างกะทันหัน จะทำให้มูลค่าผลผลิตมวลรวมในประเทศปี 2022 และ 2023 ลดลงสะสมราว 220 ล้านยูโร หรือกว่า 6.5% ของผลผลิตทางเศรษฐกิจทั้งปี
กระทรวงเศรษฐกิจของเยอรมนี กล่าวในรายงานประจำเดือน ว่า สงครามรัสเซีย-ยูเครน ‘ก่อให้เกิดความเสี่ยงอย่างมาก’ ต่อเศรษฐกิจของประเทศ แต่เนื่องจากขึ้นอยู่กับระยะเวลา และความรุนแรงของสงครามจึงเป็นการยากที่จะประเมินผลกระทบออกมาเป็นตัวเลขได้อย่างชัดเจน
กระทรวงเศรษฐกิจเยอรมนี กล่าวต่อว่า ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า อัตราเงินเฟ้อซึ่งเกิดจากราคาพลังงานที่พุ่งสูงขึ้น และความไม่แน่นอนต่างๆ ที่เกิดจากสงครามรัสเซีย-ยูเครนจะส่งผลกระทบต่อการบริโภคภาคเอกชน ทั้งนี้ กระแสการค้าและห่วงโซ่อุปทาน ได้รับผลกระทบจากสงครามเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และได้กล่าวเสริมว่า ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับเศรษฐกิจในอนาคตจะยังคงสูงอยู่ต่อไป
โดยเมื่อวันอังคาร (12 เม.ย.) ประธานคณะกรรมการรัฐสภาเยอรมนี ได้ออกมาเรียกร้องให้สหภาพยุโรปบังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรน้ำมันรัสเซียโดยเร็วที่สุด ในขณะที่ผลจากแบบสอบถามซึ่งตีพิมพ์วันพุธ (13 เม.ย.) ระบุว่าชาวเยอรมันส่วนใหญ่ ‘ไม่เห็นด้วย’ กับมาตรการคว่ำบาตรดังกล่าว