รัฐแอละแบมา แบนการใช้ฮอร์โมนบำบัดเพื่อการข้ามเพศในผู้เยาว์
เมื่อวันจันทร์ (27 พ.ค.) ที่ผ่านมารัฐแอละแบมายื่นอุทธรณ์ต่อศาลรัฐบาลกลางที่ได้ยกเลิกกฎหมายแบนการใช้ฮอร์โมนบำบัดเพื่อการข้ามเพศในผู้เยาว์ โดยให้เหตุผลว่าไม่สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญแห่งสหรัฐอเมริกาฉบับแก้ไขเพิ่มเติมครั้งที่ 14 และขัดต่อประวัติศาสตร์และประเพณีของประเทศ
โดยตอนหนึ่งในสำนวนคำร้อง สตีฟ มาร์แชลล์ อัยการสูงสุดรัฐแอละแบมายืนกรานว่า สิทธิในการออกกฎหมายแบนการใช้ฮอร์โมนบำบัดเพื่อการข้ามเพศในผู้เยาว์แม้ผู้ปกครองยินยอมก็ตาม เป็นอำนาจของรัฐภายใต้รัฐธรรมนูญ ซึ่ง ‘รัฐบาลกลางหรือกลุ่มผลประโยชน์ทางการแพทย์ไม่มีสิทธิก้าวก่าย’
นอกจากนี้ ยังกล่าวถึงงานวิจัยเกี่ยวกับการใช้ฮอร์โมนบำบัดดังกล่าวในผู้เยาว์ว่า ล้าสมัยและไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าสามารถช่วยผู้เยาว์ที่กำลังสับสนทางเพศได้จริง
ทั้งนี้ เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา เคย์ ไอวีย์ ผู้ว่าการรัฐแอละแบมา ได้ลงนามในร่างกฎหมายซึ่งระบุว่า การใช้ฮอร์โมนบำบัดและการผ่าตัดเพื่อการข้ามเพศกับผู้เยาว์อายุไม่เกิน 19 ปี เป็นความผิดทางอาญา หากฝ่าฝืนมีโทษจำคุก 10 ปี และปรับ 15,000 ดอลลาร์ (533,400 บาท) โดยให้เหตุผลว่าเป็นการบำบัดที่อยู่ในช่วงทดลองและมีความเสี่ยงสูง
อย่างไรก็ตาม กฎหมายดังกล่าวถูกคัดค้านโดยผู้พิพากษาของรัฐบาลกลาง ซึ่งแย้งว่าการบำบัดดังกล่าวสามารถช่วยลดความเสี่ยงโรคซึมเศร้า และฆ่าตัวตายได้ และยืนยันว่าเป็นการบำบัดที่มีความปลอดภัยผ่านการรับรองโดยสมาคมการแพทย์รายใหญ่อย่างน้อย 22 แห่ง
ปิดฉาก พรก. เงินกู้โควิด เหลือเงินเกือบ 1.4 หมื่นล้าน ส่งเงินคืนคลังเรียบร้อย
“ธนกร” อัด “ธนาธร” จ้องแต่ชักศึกเข้าบ้านด้วยข้อมูลผิดๆ ชี้มวลชนเริ่มเบื่อม็อบจาบจ้วงสถาบันแล้ว สู้เอาเวลาไปทำมาหากินยังได้ประโยชน์กว่า
ศิราวุธ ภุมมะกสิกร
อดีตวิศวกรโครงการ ระดับผู้จัดการ จบปริญญาตรีวิศวกรรมเครื่องกล จาก พระจอมเกล้าธนบุรี และ โท ด้าน Advanced Manufacturing Engineering จาก University of South Australia มีความสนใจในเรื่องประวัติศาสตร์ การเมือง และสวัสดิการสังคม