Newsnon-binary พุ่งกว่า 40 เท่า จำนวนนักเรียนในสหรัฐฯ ที่ระบุตัวเองว่า มีเพศวิถีแบบ non-binary พุ่งขึ้นกว่า 4,000% ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา

non-binary พุ่งกว่า 40 เท่า จำนวนนักเรียนในสหรัฐฯ ที่ระบุตัวเองว่า มีเพศวิถีแบบ non-binary พุ่งขึ้นกว่า 4,000% ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา

ข้อมูลที่เผยแพร่โดยกระทรวงศึกษาธิการสหรัฐฯ เปิดเผยว่า จำนวนนักเรียนในโรงเรียนรัฐในรัฐนิวเจอร์ซีย์ที่ระบุตัวเองอย่างเปิดเผยว่าเป็น “นอน-ไบนารี่” เพิ่มขึ้นถึง 4,000% ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา

 

รายงานระบุว่า นักเรียนระดับชั้นเตรียมอนุบาลถึงระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ระหว่างปีการศึกษา 2565-2566 ที่ระบุตนว่าเป็น นอน-ไบนารี่ มีจำนวนทั้งสิ้น 675 คน เมื่อเทียบกับในปี 2019-2020 ที่มีเพียง 16 คน 

 

นอกจากนี้ ยังตั้งข้อสังเกตว่าในบรรดานักเรียนที่ระบุตนเป็น “นอน-ไบนารี” ทั้งหมดในรัฐนิวเจอร์ซีย์ในปีนี้ เป็นนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาถึง 41 คน

 

ในขณะเดียวกัน ผู้ว่าการรัฐนิวเจอร์ซีย์จากรัฐเดโมแครต โต้แย้งว่าโรงเรียนไม่มีหน้าที่ต้องแจ้งให้ผู้ปกครองทราบเกี่ยวกับเพศหรืออัตลักษณ์ทางเพศของบุตรหลาน

 

เมื่อเดือนที่แล้ว คณะกรรมการโรงเรียนในท้องถิ่นได้ออกนโยบายที่กำหนดให้เจ้าหน้าที่ต้องแจ้งให้ผู้ปกครองทราบเกี่ยวกับสิ่งใดก็ตามที่อาจมี “ผลกระทบทางวัตถุต่อสุขภาพร่างกายและ/หรือจิตใจของนักเรียน” 

 

อย่างไรก็ตาม แมทธิว แพลตคิน อัยการสูงสุดของรัฐนิวเจอร์ซีย์ ได้สั่งฟ้องคณะกรรมการโรงเรียน โดยแย้งว่าเป็นนโยบาย “เลือกปฏิบัติ” ต่อนักเรียน LGBTQ และเป็นการบังคับให้ครู “เปิดเผย” เพศหรืออัตลักษณ์ทางเพศต่อผู้ปกครองโดยไม่ได้รับความยินยอมจากเด็ก โดยฟิล เมอร์ฟี ผู้ว่าการรัฐนิวเจอร์ซีย์เป็นนผู้ลงนามรับรองการฟ้องร้องในครั้งนี้

 

การสำรวจที่จัดทำโดยศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งชาติสหรัฐฯ (CDC) ในเดือนเมษายนพบว่า นักเรียนมัธยมปลายประมาณ 1 ใน 4 คิดว่าตัวเองเป็น LGBTQ

 

ในขณะเดียวกัน การสำรวจโดยสำนักวิจัย Pew Research Center เมื่อปีที่แล้วยังพบว่า 5.1% ของผู้ใหญ่อายุต่ำกว่า 30 ปี ระบุตนเป็นคนข้ามเพศ หรือนอน-ไบนารี ขณะที่การสำรวจที่คล้ายกันซึ่งจัดทำโดยสถาบัน Williams Institute ในปี 2559 ตัวเลขนั้นอยู่ที่เพียง 0.6%

 

ที่ผ่านมา นักการเมืองอเมริกันจำนวนหนึ่งได้ออกมาเตือนเกี่ยวกับประเด็นนี้ โดยวิเวก รามาสวามี ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีปี 2567 กล่าวว่าจำนวนเด็กและผู้ใหญ่ที่ระบุตนว่าเป็น LGBTQ ลุกลามไวมากจนเหมือนเป็นการแพร่ระบาดของโรคติดต่อทางสังคม

 

ทั้งนี้ วิเวก ยืนยันว่าเขาไม่ได้ต่อต้านหรือรังเกียจกลุ่ม LGBTQ แต่เขาต่อต้านวัฒนธรรมทางสังคมที่ทำให้เด็กที่ยังขาดวุฒิภาวะและตัดสินใจด้วยตัวเองได้ เกิดความสับสนในอัตลักษณ์ของพวกเขาเอง

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    คุกกี้ที่มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้งานเว็บไซต์ได้อย่างเป็นปกติ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณ เพื่อให้เราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมและความสนใจของคุณ

บันทึกการตั้งค่า