รู้จัก ‘Dynamic Korea’ แผนปฏิรูปครั้งใหญ่ของเกาหลี กับโจทย์ในการดึงผู้เชี่ยวชาญทั่วโลกเพื่อยกระดับประเทศ ไปจนถึงแผนเศรษฐกิจเพื่อลดความเหลื่อมล้ำในสังคม

รัฐบาลเกาหลีใต้ตั้งเป้าที่จะดึงดูดแรงงานวิชาชีพ (professional worker) 150,000 คนจากต่างประเทศภายในปี 2035 เพิ่มขึ้นกว่าสองเท่าจาก 72,000 คนในปี 2023 โดยมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มความสามารถในการผลิตท่ามกลางจำนวนประชากรวัยทำงานที่ลดลง 

เกาหลีใต้ยังตั้งเป้าที่จะสร้างเครือข่ายข้อตกลงการค้าเสรี (FTA) ที่ครอบคลุมที่สุดในโลกภายในปี 2027 โดยกลยุทธ์ดังกล่าวมีจุดมุ่งหมายเพื่อสร้างเครือข่ายธุรกิจระหว่างประเทศที่มีความยืดหยุ่น ท่ามกลางการแข่งขันระดับโลกที่เข้มข้นสำหรับวัสดุเชิงกลยุทธ์และห่วงโซ่อุปทานที่เปราะบาง

แผนดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของแผนกลยุทธ์ “Dynamic Korea” ซึ่งเป็นชุดเป้าหมายนโยบายระยะยาวที่ครอบคลุม ซึ่งกระทรวงเศรษฐกิจและการเงินและกระทรวงที่เกี่ยวข้องประกาศร่วมกันในวันพุธ (3 ก.ค.) เพื่อจัดการกับโมเมนตัมการเติบโตที่อ่อนแอของเกาหลี

อัตราการเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ หรือ GDP ประจำปีของเกาหลี คาดว่าจะลดลงสู่ระดับ 1% ในอนาคตอันใกล้ และอาจต่ำกว่า 1% หลังจากปี 2035 

Kim Byoung-hwan รมว.คลังเกาหลีใต้เน้นย้ำว่าการปฏิรูปโครงสร้างที่ครอบคลุมมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการสร้าง “วงจรอันดีงามของการเติบโตทางเศรษฐกิจ และการขยับสถานะทางสังคม (Social Mobility) ” พร้อมเสริมว่า การปฏิรูปดังกล่าวจะช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิตและรับประกันความยั่งยืนทางเศรษฐกิจในระยะยาว

รัฐบาลพิจารณาว่าจำเป็นต้องดึงดูดแรงงานต่างชาติที่มีทักษะจำนวน 150,000 คน โดยตระหนักว่าเกาหลีล้าหลังประเทศเศรษฐกิจหลักอื่นๆ มากในการใช้แรงงานมืออาชีพจากต่างประเทศอย่างมีประสิทธิภาพ

ตัวอย่างเช่น ระหว่างปี 2012-2023 จำนวนแรงงานต่างชาติที่มีทักษะในเกาหลีเพิ่มขึ้นจาก 50,000 คน เป็น 72,000 คน ขณะที่ ญี่ปุ่นพบว่ามีแรงงานต่างชาติที่มีทักษะเพิ่มขึ้นจาก 124,000 คนเป็น 480,000 คนในช่วงเวลาเดียวกัน

เพื่อเพิ่มผลิตภาพแรงงาน รัฐบาลยังมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาอุตสาหกรรมการบริการใหม่ๆ และการลงทุนจำนวนมากในด้านปัญญาประดิษฐ์ เทคโนโลยีควอนตัม และเทคโนโลยีชีวภาพ

ในส่วนของเขตการค้าเสรีนั้น GDP รวมของคู่ค้า FTA ของเกาหลีคิดเป็น 85% ของ GDP โลก ซึ่งใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลกรองจากสิงคโปร์ที่คิดเป็น 87% ของ GDP โลก โดยเกาหลีใต้วางแผนที่จะคว้าเขตการค้าเสรีเพิ่มเติมเพื่ออ้างสิทธิ์เป็นที่ 1 ภายในปี 2035

รัฐบาลยังตั้งเป้าที่จะสร้างศูนย์กลางธุรกิจขนาดเทียบเท่ากับในสิงคโปร์และฮ่องกงใน “ยงซาน อินเทอร์เนชั่นแนล บิสเนส ดิสทริกต์” (Yongsan International Business District) ย่านธุรกิจแห่งอนาคตในกรุงโซล แผนโดยละเอียดสำหรับศูนย์กลางธุรกิจดังกล่าวจะได้รับการสรุปในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ โดยการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานที่เกี่ยวข้องมีกำหนดแล้วเสร็จภายในปี 2028

เพื่อส่งเสริมสภาพแวดล้อมที่เป็นมิตรต่อธุรกิจมากขึ้น รัฐบาลตั้งเป้าที่จะลดภาษีนิติบุคคลลง 5% โดยพิจารณาจากผลตอบแทนของผู้ถือหุ้นที่เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับผลตอบแทนเฉลี่ยในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังพิจารณายกเลิกการเก็บภาษีเพิ่มเติมสำหรับผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดของบริษัทขนาดใหญ่ ซึ่งปัจจุบันบังคับใช้ในการโอนหุ้นให้กับสมาชิกในครอบครัว

แผนกลยุทธ์ยังครอบคลุมมาตรการต่างๆ เพื่อจัดการกับความท้าทายที่เกี่ยวข้องกับจำนวนประชากรที่ลดลง เช่น ความเสี่ยงสูญพันธุ์ในพื้นที่ชนบท ความเหลื่อมล้ำที่เพิ่มมากขึ้น และการแข่งขันที่รุนแรงในการสอบเข้ามหาวิทยาลัย

รัฐบาลยังตั้งเป้าที่จะเพิ่มอัตราการมีส่วนร่วมด้านแรงงานของประชากรวัยทำงานอายุ 15-64 ปี ให้สูงกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มประเทศ OECD ที่ 73.7% ภายในปี 2035 เพิ่มขึ้นจาก 71.1% ในปี 2023

เพื่อส่งเสริมความสามารถในการแข่งขันระดับนานาชาติในระดับอุดมศึกษา รัฐบาลมีเป้าหมายที่จะเพิ่มจำนวนมหาวิทยาลัยที่ได้รับการจัดอันดับให้อยู่ใน 100 อันดับแรกของโลก เป็น 10 แห่ง ภายในปี 2025 เพิ่มขึ้นจาก 1 แห่ง ในปี 2024

รัฐบาลยังได้ประกาศวัตถุประสงค์เชิงนโยบายขนาดย่อมสำหรับครึ่งหลังของปีนี้ด้วย โดยนโยบายส่วนใหญ่มุ่งเน้นไปที่การช่วยเหลือเจ้าของธุรกิจขนาดเล็กที่ขาดแคลนเงินสด ซึ่งรวมถึงแพ็คเกจทางการเงิน 25 ล้านล้านวอน (6.6 แสนล้านบาท) การขยายกำหนดเวลาการชำระคืนเงินกู้ออกไปอีก 5 ปี การลดต้นทุนการบำรุงรักษาธุรกิจ และการกระตุ้นการท่องเที่ยวในพื้นที่ชนบท

(1 วอน = 0.026 บาท)