Newsจะไม่มีสัตว์ต้องตาย ในเหตุเพลิงไหม้ที่จตุจักร ถ้ากฎหมายความปลอดภัยสำหรับที่สาธารณะ ที่เก่าแก่ถึง 30 ปีได้รับการปรับปรุง

จะไม่มีสัตว์ต้องตาย ในเหตุเพลิงไหม้ที่จตุจักร ถ้ากฎหมายความปลอดภัยสำหรับที่สาธารณะ ที่เก่าแก่ถึง 30 ปีได้รับการปรับปรุง

จะไม่มีสัตว์ต้องตายในเหตุเพลิงไหม้ที่จตุจักร ถ้ากฎหมายความปลอดภัยสำหรับที่สาธารณะ ที่เก่าแก่ถึง 30 ปีได้รับการปรับปรุง



ถือเป็นเหตุการณ์ที่น่าสลดในเช้าวันนี้ เมื่อเกิดเหตุเพลิงไหม้โครงการตลาดศรีสมรัตน์ โซนจำหน่ายปลากัดและสัตว์เลี้ยงขึ้นในช่วงเวลา ประมาณ 04.08 น. และเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมเพลิงให้สงบได้ในเวลา  04.37 น. แต่เหตุการณ์ดังกล่าว ทำให้เกิดความเสียหายต่อร้านค้า 118 คูหา 1,300 ตารางเมตร หรืออาจประมาณการได้ว่าตลาดดังกล่าวนั้น ถูกไฟลามมอดไหม้ด้วยอัตราถึงเกือบ 4 คูหาต่อนาที ซึ่งเป็นอัตราการลามไฟที่สูงมาก

 

ผู้ประสบภัยทั้งหมดเป็นสัตว์เลี้ยงประเภทสุนัข แมว กระต่าย งู นก ปลากัด และไก่ ได้รับความเสียหายและตายเป็นจำนวนมาก โดยสัตว์เลี้ยงส่วนใหญ่ ถูกขังอยู่ในกรงเพื่อรอการจำหน่าย จึงไม่สามารถหลบหนีออกจากกองเพลิงได้ ถูกไฟคลอกตายทั้งเป็น

และเป็นอีกครั้งที่ผู้ต้องสงสัยอันดับ 1 คือ “ไฟฟ้าลัดวงจร” ซึ่งในมุมหนึ่ง นี่ถือเป็นความบกพร่องส่วนบุคคล ซึ่งจะทำให้ปัญหาเหล่านี้ถูกตัดจบลงเพียงเท่านี้ ปล่อยให้คนไทยหมดความสนใจไปจากโศกนาฎกรรมที่เกิดขึ้นไปแล้ว และรอไปจนกว่าจะเกิดโศกนาฎกรรมครั้งใหม่

 

กลายเป็นวงจรโศกนาฎกรรมครั้งแล้วครั้งเล่า ที่เกิดซ้ำซากวนเวียนกันไปมา

คำถามที่ถูกลืมเลือนกันมาโดยตลอด แม้ในนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ก็ไม่ได้ถามถึงในการลงพื้นที่ตรวจสอบเหตุเพลิงไหม้ในครั้งนี้ก็คือ ตลาดดังกล่าว “มีการติดตั้งระบบการป้องกันอัคคีภัย” ที่ดีมากเพียงพอหรือไม่

ในขณะที่ประชาชนบางส่วน ตั้งข้อสังเกตถึงกรณีนี้ โดยระบุว่าตัวตลาดดังกล่าวนั้น ไม่มีการติดตั้ง “อุปกรณ์ดับเพลิงด้วยน้ำแบบอัตโนมัติ (สปริงเกอร์)” ที่ดีมากเพียงพอ ซึ่งที่จริงแล้ว ไม่ใช่เพียงแค่ที่ตลาดศรีสมรัตน์แห่งนี้เท่านั้นที่มีปัญหา แต่ยังมีอีกหลายตลาดทั่วกรุงเทพ และปริมณฑลที่มีปัญหาเช่นนี้

นอกจากนี้ ตัวตลาดเองมีพื้นที่มากถึง 1,400 ตารางเมตร แต่กลับเกิดความเสียหายที่มากถึง 1,300 ตารางเมตร คิดเป็นเกือบ 93% ของพื้นที่ ในขณะที่นับจากเวลาเกิดเหตุถึงเวลาที่สามารถควบคุมเพลิงเอาไว้ได้นั้น ใช้เวลาเพียงไม่ถึง 30 นาที 

 

สิ่งนี้บ่งบอกให้เห็นว่า อัตราการลามไฟนั้นเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว เฉลี่ยแล้วใช้เวลาการลามไฟประมาณ 43 ตารางเมตรต่อนาที หรือใช้เวลาเผาไหม้ในอัตราเกือบ 4 คูหาต่อนาที  ซึ่งถือเป็นอัตราการลามไฟที่สูงมาก

ซึ่งถ้าหากว่า ณ จุดเกิดเพลิงไหม้นั้น มีการติดตั้งอุปกรณ์ดับเพลิงด้วยน้ำแบบอัตโนมัติ (สปริงเกอร์) ติดตั้งอยู่ และอยู่ในสภาพที่พร้อมจะใช้งาน เหตุเพลิงไหม้ ก็จะหยุดอยู่แค่ตรงนั้น สัตว์เลี้ยงรอจำหน่ายก็จะเพียงแค่เปียกน้ำ รอการเข้ามาช่วยเหลือของเจ้าหน้าที่ดับเพลิง จะไม่มีสัตว์ตัวใดต้องถูกไฟคลอกตาย และไฟจะไม่ลามกินพื้นที่ถึง 1,300 ตารางเมตรอย่างที่เกิดขึ้นจริง

ทั้งนี้ ตามกฎกระทรวงมหาดไทย ฉบับที่ 39 (พ.ศ. 2537) ซึ่งออกตามออกตามความในพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 มีข้อความระบุว่า ข้อ 2 (2) กำหนดว่าอาคารที่ใช้เป็นที่ชุมนุมของประชาชน เช่นตลาด จะต้องมีวิธีการเกี่ยวกับการป้องกันอัคคีภัยตามที่กำหนดในกฎกระทรวง

 

ทั้งใน พรบ. และกฎกระทรวงดังกล่าว มิได้กำหนดให้มีการกำหนดให้มีการติดตั้งอุปกรณ์ดับเพลิงด้วยน้ำแบบอัตโนมัติ (สปริงเกอร์) สำหรับตลาด ซึ่งถือเป็นพื้นที่สาธารณะ ตามนิยามของ พรบ. ควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 เอาไว้เลย

 

นอกจากนี้ พรบ. ควบคุมอาคารฉบับล่าสุด คือฉบับ ที่ 5 พ.ศ. 2558 เพียงมุ่งเน้นไปที่การบังคับให้มีการติดตั้งระบบดับไฟอัตโนมัติ ในอาคารสูง ซึ่งแน่นอนว่าตลาด มิได้อยู่ในขอบข่ายที่กฎหมายจะเข้าไปบังคับใช้ได้เลย 

 

ดังนั้นกฎหมายด้านความปลอดภัยสำหรับตลาด จึงอาจถือได้ว่าได้รับการปรับปรุงครั้งสุดท้าย เมื่อ พ.ศ. 2537 หรือเมื่อ 30 ปีที่แล้วพอดี

ถึงเวลาแล้ว ที่กฎหมายด้านความปลอดภัยสำหรับตลาด และพื้นที่สาธารณะอื่น ๆ ควรจะได้รับการปรับปรุงให้มีความทันสมัยมากยิ่งขึ้น เพื่อเป็นการตัดวงจรโศกนาฎกรรมซ้ำซากที่อยู่คู่กับสังคมไทยมาแล้วหลายสิบปี


เนื้อหาโดย : กองบรรณาธิการ The Structure

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    คุกกี้ที่มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้งานเว็บไซต์ได้อย่างเป็นปกติ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณ เพื่อให้เราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมและความสนใจของคุณ

บันทึกการตั้งค่า