![](https://thestructure.live/wp-content/uploads/2024/06/บทความ-2024-06-11-แนวนอน.jpg)
จะไม่มีสัตว์ต้องตาย ในเหตุเพลิงไหม้ที่จตุจักร ถ้ากฎหมายความปลอดภัยสำหรับที่สาธารณะ ที่เก่าแก่ถึง 30 ปีได้รับการปรับปรุง
จะไม่มีสัตว์ต้องตายในเหตุเพลิงไหม้ที่จตุจักร ถ้ากฎหมายความปลอดภัยสำหรับที่สาธารณะ ที่เก่าแก่ถึง 30 ปีได้รับการปรับปรุง
ถือเป็นเหตุการณ์ที่น่าสลดในเช้าวันนี้ เมื่อเกิดเหตุเพลิงไหม้โครงการตลาดศรีสมรัตน์ โซนจำหน่ายปลากัดและสัตว์เลี้ยงขึ้นในช่วงเวลา ประมาณ 04.08 น. และเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมเพลิงให้สงบได้ในเวลา 04.37 น. แต่เหตุการณ์ดังกล่าว ทำให้เกิดความเสียหายต่อร้านค้า 118 คูหา 1,300 ตารางเมตร หรืออาจประมาณการได้ว่าตลาดดังกล่าวนั้น ถูกไฟลามมอดไหม้ด้วยอัตราถึงเกือบ 4 คูหาต่อนาที ซึ่งเป็นอัตราการลามไฟที่สูงมาก
ผู้ประสบภัยทั้งหมดเป็นสัตว์เลี้ยงประเภทสุนัข แมว กระต่าย งู นก ปลากัด และไก่ ได้รับความเสียหายและตายเป็นจำนวนมาก โดยสัตว์เลี้ยงส่วนใหญ่ ถูกขังอยู่ในกรงเพื่อรอการจำหน่าย จึงไม่สามารถหลบหนีออกจากกองเพลิงได้ ถูกไฟคลอกตายทั้งเป็น
และเป็นอีกครั้งที่ผู้ต้องสงสัยอันดับ 1 คือ “ไฟฟ้าลัดวงจร” ซึ่งในมุมหนึ่ง นี่ถือเป็นความบกพร่องส่วนบุคคล ซึ่งจะทำให้ปัญหาเหล่านี้ถูกตัดจบลงเพียงเท่านี้ ปล่อยให้คนไทยหมดความสนใจไปจากโศกนาฎกรรมที่เกิดขึ้นไปแล้ว และรอไปจนกว่าจะเกิดโศกนาฎกรรมครั้งใหม่
กลายเป็นวงจรโศกนาฎกรรมครั้งแล้วครั้งเล่า ที่เกิดซ้ำซากวนเวียนกันไปมา
คำถามที่ถูกลืมเลือนกันมาโดยตลอด แม้ในนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ก็ไม่ได้ถามถึงในการลงพื้นที่ตรวจสอบเหตุเพลิงไหม้ในครั้งนี้ก็คือ ตลาดดังกล่าว “มีการติดตั้งระบบการป้องกันอัคคีภัย” ที่ดีมากเพียงพอหรือไม่
ในขณะที่ประชาชนบางส่วน ตั้งข้อสังเกตถึงกรณีนี้ โดยระบุว่าตัวตลาดดังกล่าวนั้น ไม่มีการติดตั้ง “อุปกรณ์ดับเพลิงด้วยน้ำแบบอัตโนมัติ (สปริงเกอร์)” ที่ดีมากเพียงพอ ซึ่งที่จริงแล้ว ไม่ใช่เพียงแค่ที่ตลาดศรีสมรัตน์แห่งนี้เท่านั้นที่มีปัญหา แต่ยังมีอีกหลายตลาดทั่วกรุงเทพ และปริมณฑลที่มีปัญหาเช่นนี้
นอกจากนี้ ตัวตลาดเองมีพื้นที่มากถึง 1,400 ตารางเมตร แต่กลับเกิดความเสียหายที่มากถึง 1,300 ตารางเมตร คิดเป็นเกือบ 93% ของพื้นที่ ในขณะที่นับจากเวลาเกิดเหตุถึงเวลาที่สามารถควบคุมเพลิงเอาไว้ได้นั้น ใช้เวลาเพียงไม่ถึง 30 นาที
สิ่งนี้บ่งบอกให้เห็นว่า อัตราการลามไฟนั้นเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว เฉลี่ยแล้วใช้เวลาการลามไฟประมาณ 43 ตารางเมตรต่อนาที หรือใช้เวลาเผาไหม้ในอัตราเกือบ 4 คูหาต่อนาที ซึ่งถือเป็นอัตราการลามไฟที่สูงมาก
ซึ่งถ้าหากว่า ณ จุดเกิดเพลิงไหม้นั้น มีการติดตั้งอุปกรณ์ดับเพลิงด้วยน้ำแบบอัตโนมัติ (สปริงเกอร์) ติดตั้งอยู่ และอยู่ในสภาพที่พร้อมจะใช้งาน เหตุเพลิงไหม้ ก็จะหยุดอยู่แค่ตรงนั้น สัตว์เลี้ยงรอจำหน่ายก็จะเพียงแค่เปียกน้ำ รอการเข้ามาช่วยเหลือของเจ้าหน้าที่ดับเพลิง จะไม่มีสัตว์ตัวใดต้องถูกไฟคลอกตาย และไฟจะไม่ลามกินพื้นที่ถึง 1,300 ตารางเมตรอย่างที่เกิดขึ้นจริง
ทั้งนี้ ตามกฎกระทรวงมหาดไทย ฉบับที่ 39 (พ.ศ. 2537) ซึ่งออกตามออกตามความในพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 มีข้อความระบุว่า ข้อ 2 (2) กำหนดว่าอาคารที่ใช้เป็นที่ชุมนุมของประชาชน เช่นตลาด จะต้องมีวิธีการเกี่ยวกับการป้องกันอัคคีภัยตามที่กำหนดในกฎกระทรวง
ทั้งใน พรบ. และกฎกระทรวงดังกล่าว มิได้กำหนดให้มีการกำหนดให้มีการติดตั้งอุปกรณ์ดับเพลิงด้วยน้ำแบบอัตโนมัติ (สปริงเกอร์) สำหรับตลาด ซึ่งถือเป็นพื้นที่สาธารณะ ตามนิยามของ พรบ. ควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 เอาไว้เลย
นอกจากนี้ พรบ. ควบคุมอาคารฉบับล่าสุด คือฉบับ ที่ 5 พ.ศ. 2558 เพียงมุ่งเน้นไปที่การบังคับให้มีการติดตั้งระบบดับไฟอัตโนมัติ ในอาคารสูง ซึ่งแน่นอนว่าตลาด มิได้อยู่ในขอบข่ายที่กฎหมายจะเข้าไปบังคับใช้ได้เลย
ดังนั้นกฎหมายด้านความปลอดภัยสำหรับตลาด จึงอาจถือได้ว่าได้รับการปรับปรุงครั้งสุดท้าย เมื่อ พ.ศ. 2537 หรือเมื่อ 30 ปีที่แล้วพอดี
ถึงเวลาแล้ว ที่กฎหมายด้านความปลอดภัยสำหรับตลาด และพื้นที่สาธารณะอื่น ๆ ควรจะได้รับการปรับปรุงให้มีความทันสมัยมากยิ่งขึ้น เพื่อเป็นการตัดวงจรโศกนาฎกรรมซ้ำซากที่อยู่คู่กับสังคมไทยมาแล้วหลายสิบปี
เนื้อหาโดย : กองบรรณาธิการ The Structure