News3 บริษัทไทย ก่ออาชญากรรมไซเบอร์ ฉ้อโกงเงินรัฐบาลสหรัฐหลายพันล้านดอลลาร์ พบกรรมการบริษัททั้ง 3 เป็นคนจีน

3 บริษัทไทย ก่ออาชญากรรมไซเบอร์ ฉ้อโกงเงินรัฐบาลสหรัฐหลายพันล้านดอลลาร์ พบกรรมการบริษัททั้ง 3 เป็นคนจีน

สำนักข่าว Business Standard ของสหรัฐ รายงานว่า เมื่อวันที่ 28 พ.ค. 2567 กระทรวงการคลังสหรัฐได้ประกาศคว่ำบาตรชาวจีน 3 คน และบริษัทจดทะเบียนนิติบุคคลในประเทศไทย 3 แห่ง เนื่องจากพบว่ามีความเกี่ยวโยงกับการใช้บ็อตเน็ต 911 S5 (Botnet – กลุ่มของอุปกรณ์ที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต เพื่อการประกอบอาชญากรรมไซเบอร์)

ทำการบุกรุก IP Address กว่า 19 ล้านเลขหมาย เพื่อการส่งแอปพลิเคชันสำหรับการฉ้อโกงในโครงการช่วยเหลือทางการเงินในช่วงโควิด และโครงการที่เกี่ยวกับกฎหมายความมั่นคงทางเศรษฐกิจนับแสนรายการ ทำให้รัฐบาลสหรัฐฯ สูญเสียเงินหลายพันล้านดอลลาร์ อีกทั้งยังพบว่ามีความเกี่ยวโยงกับการข่มขู่วางระเบิดทั่วสหรัฐ ในเดือน ก.ค. 2565 อีกด้วย

 

ทั้งนี้ หน่วยงานสอบสวนของสหรัฐ และกระทรวงการคลังสหรัฐ ได้รับความร่วมมือจากทางการสิงคโปร์และไทยในการคว่ำบาตรบุคคล และนิติบุคคลเหล่านี้แล้ว

นอกจากนี้ นักงานควบคุมทรัพย์สินต่างประเทศของกระทรวงการคลังสหรัฐ (OFAC) ได้ออกมาระบุตัวบุคคล และนิติบุคคลดังกล่าว ดังนี้

1 นายหวัง หยุนเหอ
2 นางหลิว จิงผิง
3 นายเจิ้ง เหยียนหนี่
4 บริษัท สไปซี่ โค้ด จำกัด
5 บริษัท ทิวลิป บิส พัทยา กรุ๊ป จำกัด
6 บริษัท ลิลลี่ สูท จำกัด


จากฐานข้อมูลของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ระบุข้อมูลของนิติบุคคลทั้ง 3 ดังนี้


1 บริษัท สไปซี่ โค้ด จำกัด จดทะเบียนพาณิชย์เมื่อวันที่ 7 ส.ค. 2563 ในชลบุรี ด้วยทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท มีวัตถุประสงค์ในการประกอบกิจการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ มีนายหลิว หยางเป็นกรรมการ มีผู้ถือหุ้นสัญชาติไทย 51% และสัญชาติเซนต์กิตส์และเนวิส 49% นับตั้งแต่เริ่มจดทะเบียนจัดตั้ง

2 บริษัท บริษัท ทิวลิป บิส พัทยา กรุ๊ป จำกัด จดทะเบียนพาณิชย์เมื่อวันที่ 13 มิ.ย. 2555 ในชลบุรี ด้วยทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท มีวัตถุประสงค์ในการประกอบกิจการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ มีนายหวัง หยุนเหอเป็นกรรมการ มีผู้ถือหุ้นสัญชาติไทย 99% และสัญชาติเซนต์กิตส์และเนวิส 1% ในระหว่างปี 2563 – 2567 ยกเว้นในปี 2565 ที่มีการปรับสัดส่วนเป็นหุ้นไทย 51%


3 บริษัท ลิลลี่ สูท จำกัด จดทะเบียนพาณิชย์เมื่อวันที่ 30 ก.ค. 2555 ในชลบุรี ด้วยทุนจดทะเบียน 4 ล้านบาท มีวัตถุประสงค์ในการประกอบกิจการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ มีนายหลิว หยางเป็นกรรมการ ในปี 2563 ผู้ถือหุ้นยังเป็นสัญชาติไทย 100% จนกระทั่งปี 2564 มีปรับเปลี่ยนทุนสัญชาติจีนเข้ามา 49% และล่าสุด มีสัดส่วนหุ้นจีน 40%

ที่มา – https://www.business-standard.com/world-news/us-sanctions-3-chinese-3-thai-entities-over-covid-related-cyber-fraud-124052900088_1.html 

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    คุกกี้ที่มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้งานเว็บไซต์ได้อย่างเป็นปกติ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณ เพื่อให้เราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมและความสนใจของคุณ

บันทึกการตั้งค่า