เศรษฐกิจซบเซาเพราะการเมืองไม่แน่นอน ม. หอการค้าเรียกร้อง ทุกฝ่ายควรเสียสละ เร่งจัดตั้งรัฐบาล ชี้ ประเทศต้องการรัฐบาล กำหนดนโยบายประเทศ

มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยจัดงานแถลงข่าว “ทัศนคติและพฤติกรรมการใช้จ่ายของประชาชนเกี่ยวกับวันแม่” โดยมีนายธนวรรธน์  พลวิชัย อธิการบดีและประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจ และธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เป็นผู้แถลงในวันนี้ (8 ส.ค. 66) 

นายธนวรรธน์ กล่าวว่าจากสำรวจพฤติกรรมการใช้จ่ายในช่วงหยุดวันแม่แห่งชาติปี 2566 คาดว่าจะมีเงินสะพัดในระบบเศรษฐกิจประมาณ 10,632.57 ล้านบาท ลดลง 2.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากประชาชนระมัดระวังการใช้จ่ายมากขึ้น ประกอบกับได้จับจ่ายใช้สอยไปบ้างแล้วในช่วงวันหยุดยาวที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจไทยมีการฟื้นตัวแบบ K เชฟ คือมีบางกลุ่มที่ยังเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง อาทิเช่นภาคการท่องเที่ยว และไอที ในขณะที่บางกลุ่มหยุดนิ่ง ออกการซึมตัวลง โดยมีปัจจัยจากความไม่แน่นอนทางการเมือง ทำให้ขาดแรงกระตุ้น มีกำลังซื้อที่ไม่คึกคัก และแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจอ่อนแอลง ประกอบกับช่วงไตรมาส 3 ไม่ใช่ฤดูท่องเที่ยว

หอการค้าไทยคาดหวังว่าจะได้รัฐบาลใหม่ในเดือน ส.ค.-ก.ย.นี้ เพื่อให้เศรษฐกิจเดินหน้าต่อไปได้ เรียกร้องให้ทุกฝ่ายเสียสละ เพื่อให้การจัดตั้งรัฐบาลเป็นไปได้โดยเร็วที่สุด เพราะประเทศจะต้องมีรัฐบาล กำหนดนโยบายเพื่อเดินหน้าเศรษฐกิจของประเทศ ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยในไตรมาส 4 ให้เดินหน้าต่อไป

สำหรับการชุมนุมนั้น ประเมินว่าจะไม่ส่งผลกระทบอะไรต่อเศรษฐกิจเพราะการชุมนุมยังอยู่ในสถานการณ์ปกติ ไม่ปักหลักถาวร