![](https://thestructure.live/wp-content/uploads/2023/06/lgbt-2-1.jpg)
non-binary พุ่งกว่า 40 เท่า จำนวนนักเรียนในสหรัฐฯ ที่ระบุตัวเองว่า มีเพศวิถีแบบ non-binary พุ่งขึ้นกว่า 4,000% ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา
ข้อมูลที่เผยแพร่โดยกระทรวงศึกษาธิการสหรัฐฯ เปิดเผยว่า จำนวนนักเรียนในโรงเรียนรัฐในรัฐนิวเจอร์ซีย์ที่ระบุตัวเองอย่างเปิดเผยว่าเป็น “นอน-ไบนารี่” เพิ่มขึ้นถึง 4,000% ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา
รายงานระบุว่า นักเรียนระดับชั้นเตรียมอนุบาลถึงระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ระหว่างปีการศึกษา 2565-2566 ที่ระบุตนว่าเป็น นอน-ไบนารี่ มีจำนวนทั้งสิ้น 675 คน เมื่อเทียบกับในปี 2019-2020 ที่มีเพียง 16 คน
นอกจากนี้ ยังตั้งข้อสังเกตว่าในบรรดานักเรียนที่ระบุตนเป็น “นอน-ไบนารี” ทั้งหมดในรัฐนิวเจอร์ซีย์ในปีนี้ เป็นนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาถึง 41 คน
ในขณะเดียวกัน ผู้ว่าการรัฐนิวเจอร์ซีย์จากรัฐเดโมแครต โต้แย้งว่าโรงเรียนไม่มีหน้าที่ต้องแจ้งให้ผู้ปกครองทราบเกี่ยวกับเพศหรืออัตลักษณ์ทางเพศของบุตรหลาน
เมื่อเดือนที่แล้ว คณะกรรมการโรงเรียนในท้องถิ่นได้ออกนโยบายที่กำหนดให้เจ้าหน้าที่ต้องแจ้งให้ผู้ปกครองทราบเกี่ยวกับสิ่งใดก็ตามที่อาจมี “ผลกระทบทางวัตถุต่อสุขภาพร่างกายและ/หรือจิตใจของนักเรียน”
อย่างไรก็ตาม แมทธิว แพลตคิน อัยการสูงสุดของรัฐนิวเจอร์ซีย์ ได้สั่งฟ้องคณะกรรมการโรงเรียน โดยแย้งว่าเป็นนโยบาย “เลือกปฏิบัติ” ต่อนักเรียน LGBTQ และเป็นการบังคับให้ครู “เปิดเผย” เพศหรืออัตลักษณ์ทางเพศต่อผู้ปกครองโดยไม่ได้รับความยินยอมจากเด็ก โดยฟิล เมอร์ฟี ผู้ว่าการรัฐนิวเจอร์ซีย์เป็นนผู้ลงนามรับรองการฟ้องร้องในครั้งนี้
การสำรวจที่จัดทำโดยศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งชาติสหรัฐฯ (CDC) ในเดือนเมษายนพบว่า นักเรียนมัธยมปลายประมาณ 1 ใน 4 คิดว่าตัวเองเป็น LGBTQ
ในขณะเดียวกัน การสำรวจโดยสำนักวิจัย Pew Research Center เมื่อปีที่แล้วยังพบว่า 5.1% ของผู้ใหญ่อายุต่ำกว่า 30 ปี ระบุตนเป็นคนข้ามเพศ หรือนอน-ไบนารี ขณะที่การสำรวจที่คล้ายกันซึ่งจัดทำโดยสถาบัน Williams Institute ในปี 2559 ตัวเลขนั้นอยู่ที่เพียง 0.6%
ที่ผ่านมา นักการเมืองอเมริกันจำนวนหนึ่งได้ออกมาเตือนเกี่ยวกับประเด็นนี้ โดยวิเวก รามาสวามี ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีปี 2567 กล่าวว่าจำนวนเด็กและผู้ใหญ่ที่ระบุตนว่าเป็น LGBTQ ลุกลามไวมากจนเหมือนเป็นการแพร่ระบาดของโรคติดต่อทางสังคม
ทั้งนี้ วิเวก ยืนยันว่าเขาไม่ได้ต่อต้านหรือรังเกียจกลุ่ม LGBTQ แต่เขาต่อต้านวัฒนธรรมทางสังคมที่ทำให้เด็กที่ยังขาดวุฒิภาวะและตัดสินใจด้วยตัวเองได้ เกิดความสับสนในอัตลักษณ์ของพวกเขาเอง