“ไม่มีใครต้องเสี่ยงให้ลำบาก คนอื่นปลอดภัย ถ้าตายก็ตายคนเดียวดีไหมคะ” ยุ้ย ญาติเยอะ นักร้องเพลงลูกทุ่ง กล่าวถึงกิจกรรม “หนึ่งคนว่าย หลายคนให้” เมื่อวันที่ 5 ต.ค. 2565 — “ความรัก ความสามัคคี แล้วก็น้ำใจ 3 อย่างนี้ ไม่เคยเป็นผลเสีย ไม่เคยเป็นผลร้ายกับใคร ที่ไหนมีมาก ที่นั่นก็ยิ่งน่าอยู่ เหมือนที่นครพนมนี่แหละครับ” โตโน่-ภาคิน คำวิลัยศักดิ์ นักร้อง นักแสดงชื่อดัง ในพิธีเปิด “ศูนย์หัวใจสองฝั่งโขง” เมื่อวันที่ 22 ก.พ. 2567

ถือเป็นความสำเร็จที่งดงาม ของโตโน่–ภาคิน คำวิลัยศักดิ์ นักร้อง นักแสดงชื่อดัง โดยในวันที่ 21 ก.พ. 2567 รพ.นครพนม และ รพ.แขวงคำม่วนได้รับมอบ “ศูนย์หัวใจสองฝั่งโขง”  ซึ่งโตโน่ได้จัดกิจกรรมระดมทุน “ONE MAN AND THE RIVER หนึ่งคนว่าย หลายคนให้” ด้วยการว่ายน้ำข้ามแม่น้ำโขง วันที่ 22 ตุลาคม 2565 ที่ผ่านมา ซึ่งมียอดบริจาค 92 ล้านบาทเศษ 

ทำให้ทั้งสองโรงพยาบาลมีอุปกรณ์ทางการแพทย์เพื่อกการรักษาโรคหัวใจได้อย่างครบครัน ก่อให้เกิดประโยชน์อย่างมากต่อทั้งประชาชนชาวไทย และชาวลาว

แต่กว่าจะมีวันนี้นั้น ไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ เลย โดยในวันนั้น มีหลายคนในสังคมวิจารณ์กิจกรรมระดมทุนของโตโน่ในแง่ลบ และบางคนตั้งคำถามว่าจะว่ายน้ำไปทำไม ให้มันเดือดร้อนคนอื่น เนื่องจากพวกเขามองว่าการว่ายข้ามแม่น้ำโขงนั้นเป็นการทำเรื่องเสี่ยงตายเพื่อเรียกร้องความสนใจ

เช่นกรณีของยุ้ย ญาติเยอะ-จริยา ปรีดากูล นักร้องเพลงลูกทุ่ง ซึ่งได้เข้าไปแสดงความเห็นในเพจหนึ่ง เมื่อวันที่ 5 ต.ค. 2565 ว่า “จริงๆ แล้ว เขามีสะพานให้ข้ามนะคะ หรือมันดูง่ายไป งั้นใช้เรือแล้วพายไปเอง แต่ขอคนดีย์พายไปคนเดียวนะคะ ดูพยายามขึ้นมานิดนึงทันที เปิดรับบริจาคได้ล่ะแหละ (ไม่มีใครต้องเสี่ยงให้ลำบาก คนอื่นปลอดภัย ถ้าตายก็ตายคนเดียวดีไหมคะ)” แต่ในเวลาต่อมาได้ลบออก แต่มีชาวเน็ตมือไว แคปเอาไว้ได้ทัน และมีการนำไปเผยแพร่และวิจารณ์ในโลกโซเชียลมีเดีย

แต่ในวันที่ความสำเร็จของกิจกรรมเสร็จสมบูรณ์ ศูนย์หัวใจสองฝั่งของเริ่มให้บริการด้านสาธารณสุขแก่ประชาชน ทั้ง 2 ประเทศ โตโน่ได้ให้สัมภาษณ์ในพิธีเปิดศูนย์หัวใจสองฝั่งของว่า “นครพนมมีสิ่งที่สวยงาม มีสิ่งที่ดีงามอยู่หลายอย่าง และต่อจากนี้จะมีอีกอย่างหนึ่งด้วยก็คือ โรงพยาบาลนครพนม ซึ่งก็จะเป็นสิ่งที่ดีที่สุดอีกอย่างหนึ่งที่เอาไว้รองรับพ่อแม่พี่น้องของเราทุกคน และนักท่องเที่ยวทุกคน”

โตโน่กล่าวต่อว่า “มันสำเร็จได้เพราะทุกคน สำหรับผมแล้วสิ่งที่มันประเมินค่าไม่ได้ ไม่ใช่แค่เรื่องของตัวเลข แต่เป็นเรื่องที่เราได้เห็นคนไทย-คนลาว รัก สามัคคี มีน้ำใจให้กัน อันนี้เป็นสิ่งที่ชื่นใจมาก อยากให้พวกเราจดจำวันนี้เอาไว้ครับ”

“ขอส่งพลังใจให้คุณหมอ คุณพยาบาลทั้งสองฝั่งโขง ถึงแม้เครื่องมือเราจะมีมากขึ้น แต่คุณหมอพยาบาลก็ยังต้องเหนื่อย ต้องขอบคุณทุกคนที่เลือกอาชีพนี้ ขอบคุณที่ทำให้พวกเรามีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง อุ่นใจ และอยู่กับคนที่เรารักไปได้นานขึ้น ต่อไปก็เป็นหน้าที่ของพวกเราทุกคนที่ต้องช่วยกันดูแลตัวเองให้ดี จะได้ลดภาระหน้าที่ของคุณหมอ-พยาบาลทุกคน

ความรัก ความสามัคคี แล้วก็น้ำใจ 3 อย่างนี้ ไม่เคยเป็นผลเสีย ไม่เคยเป็นผลร้ายกับใคร ที่ไหนมีมาก ที่นั่นก็ยิ่งน่าอยู่ เหมือนที่นครพนมนี่แหละครับ อยากให้ทุกคนจำสิ่งนี้เอาไว้ครับ“ โตโน่กล่าวทิ้งท้าย