
อาหารเพื่อสุขภาพ ควรจะมีราคาที่ถูกลง WHO เสนอแนวนโยบายด้านการคลังแบบใหม่ ส่งเสริมการบริโภคอาหารที่ดีต่อสุขภาพ
องค์กรอนามัยโลก (WHO) เสนอแนวทางใหม่ด้านการคลังเพื่อการส่งเสริมอาหารสุขภาพ เพื่อการสร้างสภาพแวดล้อมด้านอาหารที่สร้างแรงจูงใจให้ประชาชนหันมาบริโภคอาหารสุขภาพ และลดแรงจูงใจในการบริโภคอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพลง รวมไปถึงแนวทางในการสนับสนุน และให้เงินอุดหนุนอื่น ๆ เพื่อส่งเสริมการบริโภคอาหารเพื่อสุขภาพ
WHO ระบุว่าในปัจจุบันนี้ ผู้คนจำนวนมากดำรงชีพอยู่ด้วยการบริโภคอาหารแปรรูปสูง หาได้ง่าย และมีไขมัน น้ำตาล และโซเดียมที่ไม่ดีต่อสุขภาพสูง อาหารเหล่านี้หลายชนิดยังมีการวางตลาดอย่างหนักและมีราคาค่อนข้างถูกอีกด้วย สร้างความลำบากในการตัดสินใจบริโภคอาหารเพื่อสุขภาพในผู้บริโภค
การรับประทานอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพถือเป็นความเสี่ยงด้านสาธารณสุขลำดับต้น ๆ ของโลก ซึ่งก่อให้เกิดโรคไม่ติดต่อ (NCDs) รวมถึงโรคอ้วน เบาหวาน โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง และมะเร็ง
มีหลักฐานว่าการเพิ่มภาษีในอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพ เช่นในเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลหวาน ส่งผลให้ความต้องการและปริมาณการบริโภคลดลง ในทางกลับกันการให้เงินอุดหนุนแก่อาหารเพื่อสุขภาพเช่น ผัก ผลไม้ทำให้อาหารเหล่านี้เข้าถึงได้มากขึ้นและมีราคาไม่แพง ซึ่งจะทำให้อาหารเหล่านี้เข้าถึงได้มากขึ้น และราคาไม่แพง จะเป็นการกระตุ้นการบริโภคให้เพิ่มมากขึ้น อีกทั้งยังเป็นการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมในเชิงบวก
ซึ่งการใช้นโยบายการคลังในแนวทางนี้น่าจะช่วยให้ผู้บริโภคหันมารับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพมากขึ้น ส่งผลให้ทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพเป็นทางเลือกที่ดีมากยิ่งขึ้น
“นโยบายการคลัง รวมถึงภาษีและเงินอุดหนุน ที่มีศักยภาพจะมีอิทธิพลต่อพฤติกรรมผู้บริโภคและตลาด ผ่านผลกระทบต่อราคาและความสามารถในการจ่ายของผลิตภัณฑ์ เงินอุดหนุนสามารถส่งเสริมการบริโภคผลิตภัณฑ์ที่ดีต่อสุขภาพ
ในขณะที่ภาษีสามารถกีดกันการบริโภคผลิตภัณฑ์ที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ และส่งเสริมให้อุตสาหกรรมปรับรูปแบบผลิตภัณฑ์ของตน” ดร. Rüdiger Krech ผู้อำนวยการกรมส่งเสริมสุขภาพ องค์การอนามัยโลกกล่าว
รัฐบาลมีบทบาทสำคัญในการลดภาระของโรคไม่ติดต่อที่เกี่ยวข้องกับอาหาร จัดการกับภาวะทุพโภชนาการในทุกรูปแบบ และส่งเสริมการรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพ หลายประเทศได้ดำเนินนโยบายการคลังที่ส่งเสริมอาหารเพื่อสุขภาพเพิ่มมากขึ้น