สถานการณ์การสู้รบ ในซีเรียส่อเค้าบานปลาย ‘รศ.ดร.ปณิธาน’ ชี้อิสราเอลบุกซีเรีย เพื่อให้การสนับสนุน กลุ่มกบฎฝ่ายของตนเองในการช่วงชิงอำนาจ
ภายหลังจากที่กลุ่มติดอาวุธ “ฮายัต ทาห์รีร์ อัล-ชาม” ได้ลุกขึ้นก่อกบฏโค่นล้มรัฐบาลบาชาร์ อัล อัสซาด ประธานาธิบดีซีเรียอย่างไม่คาดฝัน เมื่อวันที่ 8 ธ.ค. 2567 ที่ผ่านมา พร้อมประกาศยุติสงครามกลางเมืองในซีเรียที่ยาวนานมากกว่า 13 ปีลง
ซึ่งทั้งประธานาธิบดี โจ ไบเดน แห่งสหรัฐ และ เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล ต่างก็ออกมาแสดงความยินดีต่อการล่มสลายของรัฐบาล อัสซาดในครั้งนี้
อย่างไรก็ดี กองกำลังป้องกันอิสราเอล (IDF) ได้เปิดฉากโจมตีทางอากาศต่อคลังอาวุธเคมีและขีปนาวุธพิสัยไกลของซีเรีย ในวันถัดมา (9 ธ.ค.) พร้อมทั้งยังได้เคลื่อนกำลังทหารเข้าควบคุมพื้นที่บริเวณที่ราบสูงโกลัน ซึ่งเคยเป็นเขตกันชนระหว่างอิสราเอลกับซีเรียมาตั้งแต่มีการลงนามข้อตกลงในปี 1974 หลังสงครามยม-คิปปูร์ (Yom Kippur) อย่างเต็มรูปแบบ
และทำลายอาวุธเชิงยุทธศาสตร์ของรัฐบาลอัสซาดและกองกำลังติดอาวุธที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน เพื่อป้องกันไม่ให้อาวุธเหล่านี้ตกไปอยู่ในมือของกองกำลังก่อการร้าย โดยอาวุธเหล่านี้ได้แก่ ขีปนาวุธนำวิถีพื้นสู่อากาศ ระบบป้องกันภัยทางอากาศ ขีปนาวุธนำวิถีจากพื้นสู่พื้น ขีปนาวุธร่อน และชีปนาวุธพิสัยไกล
รวมถึงได้สั่งการให้กองทัพอิสราเอลป้องกันและขัดขวางการกลับมาเปิดเส้นทางการลักลอบขนอาวุธจากอิหร่านไปยังเลบานอนผ่านซีเรีย ตามจุดผ่านแดนต่างๆ ด้วย
รศ.ดร.ปณิธาน วัฒนายากร นักวิเคราะห์และผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคง กล่าวว่าในกลุ่มต่อต้านรัฐบาลอัสซาดนั้น มีกลุ่มที่เป็นพันธมิตรของอิสราเอลอยู่หลายกลุ่ม กองทัพอิสราเอลจึงเข้าไปช่วยเหลือ เพื่อให้เกิดการผลักดันให้กลุ่มที่อิสราเอลให้การสนับสนุนกลุ่มเหล่านี้
ซึ่งนี่จะเป็นส่วนสำคัญในการกำกับทิศทางของสถานการณ์ในซีเรีย เพื่อให้กลุ่มที่อิสราเอลให้การสนับสนุนมีความได้เปรียบ และป้องกันไม่ให้กลุ่มที่ต่อต้านอิสราเอลสามารถตั้งหลักขึ้นมาใหม่ได้ และรวมกำลังกันต่อต้านอิสราเอลได้อย่างเหนียวแน่นยิ่งกว่าในสมัยรัฐบาลอัสซาด
อย่างไรก็ดี สถานการณ์นั้นได้เปลี่ยนจากสถานการณ์ที่จำกัดให้บานปลายขยายตัวมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม โดยมีการช่วงชิงการนำ และแย่งชิงอำนาจที่เกิดขึ้นจากสุญญากาศทางการเมืองในซีเรีย
ทั้งนี้อิสราเอลเปลี่ยนหายนะในวันที่ 7 ตุลาคมเมื่อปีก่อนให้เป็นชัยชนะทางการทหารในปีนี้ได้อย่างน่าสนใจ ด้วยการทำลายกำลังพลของฮามาสทั้ง 5 กองพลเกือบหมด ผลักดันให้ฮิซบุลลอฮ์ยอมสงบศึกและถอยร่นไปจากชายแดน สังหารผู้นำของกลุ่มต่อต้านได้เป็นจำนวนมาก ที่สำคัญได้โจมตีอิหร่านโดยตรงอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน
ทั้งหมดนี้ แทบไม่ได้คิดกันมาก่อนว่าอิสราเอลจะไปได้ไกลขนาดนี้ ด้วยความสูญเสียของชาวยิวกว่าพันคนและของปาเลสไตน์เกือบห้าหมื่นคน ทั้งนี้ ยังไม่นับที่เลบานอน อิรัก เยเมน ในทะเลแดง และอื่น ๆ แต่ก็ยังไม่มีใครคิดว่าตะวันออกกลางจะสงบลงได้ง่าย ๆ
ผลพวงดังกล่าวข้างต้นและจากที่อิหร่านและรัสเซียอ่อนกำลังลงไม่สามารถสนับสนุนรัฐบาลอัสซาดในซีเรียให้ยืนหยัดต่อไปได้ ฝ่ายกองกำลังกบฎหลายกลุ่มจึงเข้ายึดเมืองหลวงไว้ได้ทำให้อิสราเอลต้องเข้าโจมตีซีเรียทั้งทางบกและทางทะเลเพื่อทำลายคลังแสงและโครงสร้างสำคัญต่าง ๆ เพื่อตัดกำลังกลุ่มไอซิสและอัลกออิดะฮ์เดิมที่เข้าปกครองประเทศ
ขณะนี้ กองกำลัง IDF ของอิสราเอลได้เข้าประชิดพรมแดนซีเรียยาวประมาณ 83 กม.บริเวณที่ราบสูงโกลันทางตะวันออกเฉียงเหนือตามเส้นกันชน Alpha Line แล้ว และเชื่อกันว่าหน่วยปฏิบัติการรบล่วงหน้าได้ข้ามชายแดนและกำลังมุ่งสู่เมืองหลวงกรุงดามัสกัส