
“สภาพเศรษฐกิจตอนนี้แย่มาก และพวกเราไม่สามารถจะไปต่อแบบนี้ได้… เค้กมันก้อนเล็กลง และพวกเราก็มีแขกที่โต๊ะเพิ่มขึ้น”
ซีอีโอ Volkswagen ปกป้องแผนการเลิกจ้างพนักงานจำนวนมากโดยอ้างถึงสถานการณ์เศรษฐกิจที่ “ร้ายแรง”
Oliver Blume ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Volkswagen (VW) ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ที่สุดของเยอรมนี ให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ Bild เมื่อวันอาทิตย์ (8 ก.ย.) ว่าสถานการณ์เศรษฐกิจปัจจุบันนั้นร้ายแรงมากจนบริษัทไม่สามารถจะไปต่อแบบนี้ได้ และจำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เพื่อความอยู่รอด
แถลงการณ์ของ Blume เกิดขึ้นหลังจากที่ Volkswagen ประกาศเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมาว่ากำลังพิจารณาปิดโรงงานในเยอรมนีเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ 87 ปีของบริษัท โดยวางแผนจะปิดโรงงานผลิตรถยนต์ขนาดใหญ่ 1 แห่ง และโรงงานผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ 1 แห่ง
กำไรจากการดำเนินงานของ Volkswagen ลดลง 20% ในไตรมาส 1/ 2024 และลดลง 2.4% ในไตรมาส 2/2024 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว
Blume อ้างว่าการเลิกจ้างพนักงานจะช่วยให้ Volkswagen ประหยัดเงินได้ 4,250 ล้านดอลลาร์ (1.43 แสนล้านบาท) พร้อมเสริมว่า คณะกรรมการบริหารของ Volkswagen Group กำลังพิจารณา “มาตรการอื่นๆ เพิ่มเติม” เพื่อเอาตัวรอดจากยอดขายรถยนต์ที่ตกต่ำ
Blume ระบุว่า ความท้าทายหลักที่อุตสาหกรรมรถยนต์ในยุโรปต้องเผชิญมีสาเหตุมาจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 เมื่อ 4 ปีที่แล้ว และคู่แข่งจากเอเชียที่เข้ามาในตลาด
สหภาพยุโรปกลายเป็นตลาดส่งออกรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่ใหญ่ที่สุดของจีน มูลค่าการนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้าจากจีนของประเทศในสหภาพยุโรเพิ่มขึ้นเป็น 11,500 ล้านดอลลาร์ (3.89 แสนล้านบาท) ในปี 2023 จากเพียง 1,600 ล้านดอลลาร์ (5.41 หมื่นล้านบาท) ในปี 2020 และคิดเป็นสัดส่วนถึง 37% ของการนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้าทั้งหมด
(1 ดอลลาร์ = 33.84 บาท)