องค์กรโซรอสแทรกแซงรัฐสภาสหภาพยุโรปนายกฯ ฮังการี เรียกร้องให้ EU ปกป้องผลประโยชน์สมาชิก โดยกำจัดล็อบบี้ยิสต์ของโซรอสออกจากรัฐสภายุโรป

นายกรัฐมนตรีฮังการี เรียกร้องให้สหภาพยุโรป (EU) ปฏิเสธการรับยูเครนเป็นสมาชิก พร้อมทั้งยุติอิทธิพลของตัวแทนต่างชาติที่เชื่อมโยงกับมหาเศรษฐี จอร์จ โซรอส ซึ่งเขาอ้างว่ามีผลต่อการกำหนดนโยบายของสหภาพฯ

วิคเตอร์ ออร์บาน นายกรัฐมนตรีฮังการี ย้ำจุดยืนทางการเมืองผ่านโพสต์บนแพลตฟอร์ม X เมื่อวันเสาร์ (15 มี.ค.) ที่ผ่านมา โดยเรียกร้องให้สหภาพยุโรป ปฏิเสธการรับยูเครนเป็นสมาชิก รวมถึงการสนับสนุนอำนาจอธิปไตยของชาติสมาชิกในประเด็นภายในประเทศ นอกจากนี้ เขายังเรียกร้องให้ “ขับไล่ตัวแทนของจอร์จ โซรอส” ออกจากคณะกรรมาธิการยุโรป และ “กำจัดล็อบบี้ยิสต์ที่ทุจริต” ออกจากรัฐสภายุโรป 

ผู้นำฮังการี มีประวัติการต่อต้านองค์กรที่ได้รับทุนสนับสนุนจากต่างชาติ โดยเฉพาะองค์กรที่เกี่ยวข้องกับมหาเศรษฐีจอร์จ โซรอส ซึ่งเขาได้กล่าวหาว่าแทรกแซงกิจการภายในประเทศ บ่อนทำลายคุณค่าครอบครัวแบบดั้งเดิม และส่งเสริมวาระโลกาภิวัตน์

ที่ผ่านมา รัฐบาลฮังการีคัดค้านการรับยูเครนเป็นสมาชิกสหภาพยุโรปอย่างหนักแน่น โดยอ้างถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อเศรษฐกิจของ EU ทั้งนี้ ยูเครนได้ยื่นขอเป็นสมาชิกไม่นานหลังจากความขัดแย้งกับรัสเซียทวีความรุนแรงขึ้นในเดือน ก.พ. 2022 และได้รับสถานะผู้สมัครภายในระยะเวลาเพียง 3 เดือน

ผู้นำฮังการี ยังเรียกร้องให้ EU คืนอำนาจที่พรากไปจากประเทศสมาชิกอย่างมิชอบด้วยผิดกฎหมาย พร้อมเน้นย้ำถึงความสำคัญของอธิปไตยแห่งชาติและสิทธิในการ veto ของรัฐบาลแต่ละประเทศ นอกจากนี้ เขายังเรียกร้องให้สหภาพยุโรปหยุดขัดขวางกองกำลังพิทักษ์ชาติฮังการีในการปกป้องพรมแดน โดยระบุว่า “อย่านำผู้อพยพเข้ามา และให้เนรเทศผู้ที่เข้าเมืองอย่างผิดกฎหมายออกไป”

รัฐบาลฮังการีภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรี วิคเตอร์ ออร์บาน ยังคงใช้นโยบายเข้มงวดในการจัดการกับผู้อพยพ นับตั้งแต่วิกฤตผู้อพยพในปี 2015 โดยมาตรการสำคัญรวมถึงการสร้างรั้วกั้นชายแดนทางตอนใต้ที่ติดกับเซอร์เบียและโครเอเชีย และการปฏิเสธโควตาผู้ลี้ภัยที่กำหนดโดยสหภาพยุโรป อย่างไรก็ตาม มาตรการเหล่านี้ได้นำไปสู่ข้อพิพาททางกฎหมาย โดยเมื่อปีที่ผ่านมา ศาลยุติธรรมแห่งสหภาพยุโรปได้สั่งปรับฮังการีเป็นจำนวนเงิน 200 ล้านยูโร (7320.20 ล้านบาท) เนื่องจากไม่ปฏิบัติตามกฎระเบียบด้านลี้ภัยของ EU

ผู้นำฮังการียังได้เรียกร้องให้สหภาพยุโรป ปกป้องมรดกทางวัฒนธรรมคริสเตียนของยุโรป แบน “การปรับเปลี่ยนวิธีการคิด ความเชื่อ หรือพฤติกรรมของเด็ก ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับด้านการศึกษา วัฒนธรรม หรือค่านิยมทางสังคมในลักษณะที่ไม่เป็นธรรมชาติ” การกำจัดหนี้สิน และการสร้างความเท่าเทียมกันต่อกฎหมายสำหรับสมาชิกทุกประเทศในสหภาพยุโรป

รัฐบาลฮังการีได้แก้ไขกฎหมายคุ้มครองเด็กเมื่อ 4 ปีก่อน โดยห้ามการส่งเสริมหัวข้อที่เกี่ยวข้องกับ LGBTQ ในสื่อ โฆษณา และสื่อการศึกษาที่เด็กสามารถเข้าถึงได้ มาตรการดังกล่าวสร้างความไม่พอใจให้กับสหภาพยุโรปเป็นอย่างมาก ซึ่งได้ยื่นเรื่องต่อศาลยุติธรรมแห่งสหภาพยุโรป และสั่งระงับเงินทุนจากสหภาพยุโรปมูลค่าหลายพันล้านยูโรที่จัดสรรไว้สำหรับฮังการี โดยอ้างว่าเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน

(1 ยูโร = 36.60 บาท)

ที่มา: อาร์ที