สหรัฐฯ ปิดหน่วยงาน โฆษณาชวนเชื่อและกองเซ็นเซอร์ ซึ่ง อีลอน มัสก์ เคยระบุว่าเป็น “ภัยคุกคามต่อประชาธิปไตย”
ศูนย์ติดตามตรวจสอบข้อมูลอันเป็นเท็จทั่วโลกที่กระทบต่อสหรัฐฯ หรือ GEC ที่จัดตั้งขึ้นในปี 2016 ปิดตัวลงหลังจากรัฐสภาสหรัฐฯ ไม่อนุมัติงบประมาณสนับสนุนการดำเนินการ ท่ามกลางข้อกล่าวหาของพรรครีพับลิกันที่อ้างว่า หน่วยงานดังกล่าวเผยแพร่โฆษณาชวนเชื่อในต่างประเทศ และปิดกั้นความเห็นต่างในสหรัฐฯ
GEC ซึ่งมีมีพนักงานประมาณ 120 คน และมีงบประมาณประจำปี 61 ล้านดอลลาร์ (2.08 พันล้านบาท) ประกาศปิดตนเองเมื่อวันจันทร์ (23 ธ.ค.) ในช่วงเวลาที่เจ้าหน้าที่และผู้เชี่ยวชาญที่ติดตามการโฆษณาชวนเชื่อได้เตือนถึงความเสี่ยงของการรณรงค์เผยแพร่ข้อมูลเท็จจากฝ่ายตรงข้ามของสหรัฐ เช่น รัสเซีย และจีน
“GEC ได้ปรึกษาหารือกับสภาคองเกรสแล้วเกี่ยวกับการดำเนินการขั้นตอนต่อไป” แถลงการณ์ระบุ
ในทางปฏิบัติ GEC เป็นผู้นำในการโฆษณาชวนเชื่อ โดย GEC ได้ให้ทุนสนับสนุนวิดีโอเกมที่มุ่งสอนเด็กๆ เกี่ยวกับอันตรายจากแนวคิดต่อต้านอเมริกา ซึ่งเผยแพร่ในสหราชอาณาจักร ยูเครน ลัตเวีย อิรัก และซาอุดีอาระเบีย
และในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 GEC ได้จัดสรรเงินให้กับ NGO หลายแห่ง ซึ่งทำการรวบรวมรายชื่อบัญชีโซเชียลมีเดียที่เผยแพร่ “ข้อมูลเท็จ” เกี่ยวกับไวรัสโควิด-19 และต้นกำเนิดโควิด-19 จากนั้นจึงนำไปเสนอต่อแพลตฟอร์มต่างๆ เพื่อทำการแบนหรือลบบัญชีเหล่านี้ โดยบัญชีเหล่านี้ส่วนใหญ่เป็นของ Yoel Roth อดีตหัวหน้าฝ่ายความปลอดภัยของ Twitter
ในปี 2023 GEC ถูกบังคับให้ตัดความสัมพันธ์กับ ‘Global Disinformation Initiative’ ของจอร์จ โซรอส หลังจากที่มีการเปิดเผยว่า GEC จ่ายเงินให้กับองค์กรของโซรอสให้จัดทำรายชื่อสำนักข่าวที่มีความเสี่ยงสูงเพื่อใช้ในการรณรงค์คว่ำบาตรผู้ลงโฆษณา โดยไซต์ข่าวเหล่านี้ส่วนใหญ่เป็นฝ่ายอนุรักษ์นิยมที่ตั้งอยู่ในอเมริกา
อีลอน มัสก์ เจ้าของแพลตฟอร์ม X และซีอีโอของ Tesla เมื่อปีที่แล้วกล่าวหาว่า GEC เป็นหน่วยงานตรวจสอบและเซ็นเซอร์ที่เลวร้ายที่สุดของรัฐบาลสหรัฐฯ และเป็น “ภัยคุกคามต่อประชาธิปไตยสหรัฐ”
(1 ดอลลาร์ = 34.19 บาท)