
สหรัฐฯ พร้อมหาอาวุธนิวเคลียร์ ให้เกาหลีใต้เพื่อรับมือเกาหลีเหนือ และยังคงมุ่งมั่นอย่างเต็มที่ในการปกป้องสาธารณรัฐเกาหลี
สหรัฐฯ พร้อมที่จะจัดหาอาวุธนิวเคลียร์ รวมถึงอาวุธที่ไม่ใช่นิวเคลียร์ ให้เกาหลีใต้ ลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ กล่าวเมื่อวันพุธ (30 ต.ค.) ถ้อยแถลงดังกล่าวมีขึ้นในขณะที่ความตึงเครียดบนคาบสมุทรเกาหลีทวีความรุนแรงขึ้น และเกิดขึ้นไม่กี่ชั่วโมงก่อนที่เกาหลีเหนือจะทดสอบขีปนาวุธข้ามทวีปในวันพฤหัสบดี (31 ต.ค.)
ออสติน กล่าวระหว่างแถลงข่าวร่วมกับคิม ยอง-ฮยอน รัฐมนตรีกลาโหมเกาหลีใต้ เมื่อวันพุธ (30 ต.ค.) ว่า สหรัฐฯ และเกาหลีใต้จะยกระดับความร่วมมือด้านกลาโหม และการซ้อมรบร่วมขนาดใหญ่
“วันนี้ ผมให้คำมั่นกับรัฐมนตรีคิมว่า สหรัฐฯ ยังคงมุ่งมั่นอย่างเต็มที่ในการปกป้องสาธารณรัฐเกาหลี และคำมั่นสัญญาของเราเกี่ยวกับการป้องปรามยังคงแข็งแกร่ง” “คำมั่นสัญญาดังกล่าวอยู่ภายใต้การสนับสนุนอย่างเต็มพิกัดของระบบต่อต้านขีปนาวุธ อาวุธนิวเคลียร์ และไม่ใช่นิวเคลียร์ของสหรัฐฯ” “สหรัฐฯ และเกาหลีใต้จะกลับมาซ้อมรบขนาดใหญ่ และเสริมสร้างความพร้อมรบและการทำงานร่วมกัน”
เกาหลีเหนือกล่าวโทษการซ้อมรบร่วมระหว่างเกาหลีใต้และสหรัฐฯ ต่อความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นในภูมิภาค เนื่องจากมองว่าการซ้อมรบดังกล่าวว่าเป็นการเตรียมการสำหรับความเป็นไปได้ในการรุกรานเกาหลีเหนือ
เมื่อต้นเดือน ต.ค. ที่ผ่านมา เกาหลีเหนือได้ระเบิดทำลายถนนและทางรถไฟที่เชื่อมต่อระหว่างสองชาติเกาหลี และตัดเส้นทางภาคพื้นดินที่มุ่งสู่เกาหลีเหนือ เมื่อวานนี้ (31 ต.ค.) สื่อเกาหลีใต้รายงานว่า เกาหลีเหนือได้ยิงขีปนาวุธข้ามทวีป (ICBM) ลงทะเลนอกชายฝั่งตะวันออก ซึ่งคิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือ ยืนยันว่าเป็นการทดสอบขีปนาวุธข้ามทวีปเพื่อข่มขวัญศัตรู
“สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลีขอยืนยันว่าจะไม่เปลี่ยนแปลงแนวทางในการเสริมความแข็งแกร่งให้กับคลังแสงนิวเคลียร์ของประเทศ” คิม กล่าว พร้อมเน้นย้ำว่าการทดสอบดังกล่าวเป็นการตอบโต้ที่เหมาะสมต่อการเสริมกำลังพันธมิตรนิวเคลียร์ที่อันตรายของศัตรู และกิจกรรมทางทหารต่างๆ” ที่คุกคามความปลอดภัยของเกาหลีเหนือ
สหรัฐฯ ยังกล่าวหาว่าเกาหลีเหนือกำลังช่วยเหลือรัสเซียในความขัดแย้งกับยูเครน โดยกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ อ้างว่าเกาหลีเหนือได้ส่งทหาร 10,000 นาย ไปยังรัสเซียเพื่อร่วมการฝึก และอาจส่งไปประจำการสู้รบกับกองกำลังยูเครน
ด้านประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซียไม่ได้ยืนยันหรือปฏิเสธคำกล่าวอ้างของยูเครนและสหรัฐฯ เกี่ยวกับทหารเกาหลีเหนือ ขณะที่ผู้นำรัสเซียยืนยันเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า รัสเซียและเกาหลีเหนือได้ลงนามสนธิสัญญาทวิภาคีฉบับหนึ่งที่มีเงื่อนไขด้านกลาโหมร่วมกัน