เสนอแผนห้ามใช้ซอฟต์แวร์ และฮาร์ดแวร์จีนในยานยนต์ ‘รัฐบาลสหรัฐ’ หวังสกัดทุกส่วนของจีนในอุตสาหกรรมยานยนต์
กระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐฯ เมื่อวานนี้ (23 ก.ย.) เสนอแผนห้ามใช้ซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ของจีนในยานยนต์ที่เชื่อมต่อและขับขี่อัตโนมัติในสหรัฐฯ ด้วยเหตุผลด้านความมั่นคงของชาติ
กฎระเบียบที่เสนอนี้ยังรวมถึงการบังคับให้ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ของสหรัฐฯ และรายใหญ่อื่นๆ ต้องถอดซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ของจีนออกจากรถยนต์ที่จำหน่ายในจำหน่ายในสหรัฐฯ และห้ามการทดสอบเทคโนโลยีระบบขับขี่อัตโนมัติของจีนและรัสเซียบนท้องถนนในสหรัฐฯ
สำหรับข้อเสนอใหม่นี้ ในส่วนของข้อห้ามเรื่องซอฟต์แวร์จะเริ่มมีผลบังคับใช้กับรถยนต์รุ่นปี 2027 ส่วนข้อห้ามเรื่องฮาร์ดแวร์จะเริ่มมีผลบังคับใช้ในปี 2029 หรือรถยนต์รุ่นปี 2030 กระทรวงพาณิชย์จะให้ประชาชนแสดงความเห็นเป็นเวลา 30 วัน โดยกระทรวงฯ ตั้งเป้าที่จะสรุปกฎภายในวันที่ 20 ม.ค. กฎดังกล่าวจะครอบคลุมยานพาหนะบนท้องถนนทั้งหมด แต่ไม่รวมยานพาหนะเพื่อการเกษตรหรือเหมืองแร่ที่ไม่ได้ใช้บนถนนสาธารณะ
ที่ผ่านมา รัฐบาลภายใต้การนำของประธานาธิบดีไบเดน แสดงความกังวลอย่างยิ่งเกี่ยวกับการรวบรวมข้อมูลผู้ขับขี่และโครงสร้างพื้นฐานในสหรัฐฯ โดยบริษัทจีน ตลอดจนความเสี่ยงที่ต่างชาติจะควบคุมยานยนต์ที่เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตและระบบนำทาง
ปัจจุบัน มีรถยนต์หรือรถกระบะที่ผลิตในจีนเพียงไม่กี่รุ่นที่นำเข้ามาในสหรัฐฯ ซึ่ง จีนา เรมอนโด รมว.พาณิชย์สหรัฐฯ กล่าวว่า กระทรวงฯ กำลังเร่งดำเนินการ “ก่อนที่ซัพพลายเออร์ ผู้ผลิตรถยนต์ และส่วนประกอบรถยนต์ที่เกี่ยวข้องกับจีนหรือรัสเซียจะถูกใช้อย่างแพร่หลายในสหรัฐฯ ซึ่งจะสร้างความเสี่ยงอย่างมาก
หลิน เจี้ยน โฆษกรัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของจีนคัดค้านแผนของสหรัฐฯ โดยเรียกร้องให้สหรัฐเคารพหลักการตลาดและการค้าระหว่างประเทศ รวมถึงให้สร้างสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่เปิดกว้าง ยุติธรรม โปร่งใส และไม่เลือกปฏิบัติต่อบริษัทจีน และเตือนว่าจีนจะปกป้องสิทธิและผลประโยชน์อันชอบธรรมของตน