
สหรัฐเพิ่มโปรโมชั่น ขาย F-16 ให้รัฐบาลไทย หลัง ‘เศรษฐา’ เจรจาเงื่อนไขซื้อกริฟเพน กับสวีเดน ยืนยันต้องมีเงื่อนไข ต่างฝ่ายต่างตอบแทน
นายโรเบิร์ต โกเดค เอกอัคราชทูตสหรัฐประจำประเทศไทย เข้าหารือกับนายสุทิน คลังแสง รมว. กลาโหม ที่ศาลาว่าการกระทรวงกลาโหม เมื่อวันที่ 28 มิ.ย. 2567 ที่ผ่านมา และมีรายงานว่านายโรเบิร์ตได้หารือเรื่องข้อเสนอขายเครื่องบินขับไล่ F-16 block70 ของบริษัท ล็อคฮีด มาร์ติน ตามโครงการช่วยเหลือทางทหารของสหรัฐ
โดยคาดว่าทางสหรัฐจะยื่นข้อเสนอเพิ่มเติม จากที่พลเอกลอยด์ ออสติน รมว.กลาโหมของสหรัฐ ได้เคยเสนอโครงการให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่กองทัพต่างชาติ (Foreign Military Financing: FMF) เพื่อมอบความช่วยเหลือ และเงินกู้แก่ประเทศพันธมิตรเพื่อใช้ในการจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ทางทหาร และการฝึกอบรมของสหรัฐฯ
ในการประชุมแบบทวิภาคีในช่วงการประชุมเชียงการีน่าไดอาล็อค ที่ประเทศสิงคโปร์ เมื่อเดือน พ.ค. ที่ผ่านมา ด้วยการเปิดโอกาสให้มีการผ่อนชำระนานถึง 9 ปี และคิดอัตราดอกเบี้ยเพียง 5% ซึ่งต่ำกว่ากรอบที่กำหนดไว้ และเป็นกรอบระยะเวลาผ่อนชำระที่นานกว่าปกติ อีกทั้งยังเป็นข้อเสนอที่เพิ่มเติมจากการลดราคา F-16 ให้แล้ว
ด้าน พล.อ.อ.พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผู้บัญชาการทหารอากาศ กล่าวถึงการเข้าพบนายสุทิน ของนายโรเบิร์ตว่า กองทัพอากาศยังเปิดรับฟังข้อเสนอเพิ่มเติมของทั้ง 2 ชาติ และจะดำเนินการคัดเลือกให้มีความคุ้มค่าในทุกด้าน และเป็นไปตามนโยบายต่างฝ่ายต่างตอบแทนทางเศรษฐกิจด้วย
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 24 มิ.ย. 2567 ที่ผ่านมา นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีเปิดเผยว่าได้มีการหารือกับนายมาร์คัส วอลเลนเบิร์ก ประธานกรรมการธนาคาร Skandinaviska Enskilda Banken (SEB) ประเทศสวีเดน เรื่องการจัดซื้อเครื่องบินขับไล่แบบกริฟเพน (Gripen) ในรูปแบบการจัดซื้อจัดจ้างแบบชดเชย หรือนโยบายออฟเซต (Offset Policy)
โดยระบุว่าถ้าการไทยจะซื้อ ก็ต้องการให้มีการพัฒนาเทคโนโลยีและอากาศยานที่ประเทศไทย เช่น การสร้างโรงงานผลิต โรงงานซ่อม โรงงานผลิตชิ้นส่วนด้วย เพื่อเป็นการตอบแทนที่เราไปซื้อของเขา อีกทั้งยังประกาศว่าในปีหน้าจะจัดฟอรั่มที่ดาวอส เพื่อหารือกับสวีเดนเรื่องการพัฒนาเทคโนโลยีร่วมกันกับไทยด้วย
อีกทั้งยังยืนยันว่าหากจะซื้อเครื่องบิน F-16 จากสหรัฐ สหรัฐก็ต้องมาพัฒนาด้านต่าง ๆ ให้ประเทศไทยด้วย เหมือนเป็นการต่างตอบแทน