
‘หายนะทางเศรษฐกิจ’ รมต.คลังเตือนหากสหรัฐฯ ผิดนัดชำระหนี้ เนื่องจากกฎหมายเพิ่มเพดานหนี้ไม่ผ่าน จะทำให้เกิดหายนะทางเศรษฐกิจ
เจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ เตือนเมื่อวันอังคาร (25 เม.ย.) ว่าการผิดนัดชำระหนี้ที่อาจเกิดขึ้นจากความล้มเหลวของสภาคองเกรสในการปรับเพิ่มเพดานหนี้ จะก่อให้เกิด “หายนะทางเศรษฐกิจ” ซึ่งจะส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยสูงขึ้นในอีกหลายปีข้างหน้า
เยเลน ยังกล่าวด้วยว่าเป็น “ความรับผิดชอบขั้นพื้นฐาน” ของสภาคองเกรสในการเพิ่มหรือระงับวงเงินกู้ยืม 31.4 ล้านล้านดอลลาร์ (ราว 1,077 ล้านล้านบาท) โดยเตือนว่าการผิดนัดชำระหนี้จะคุกคามความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ นับตั้งแต่เกิดการระบาดของโควิด-19
“การผิดนัดชำระหนี้ของสหรัฐฯ จะส่งผลให้ประชาชนชาวอเมริกันตกงาน ขณะเดียวกันก็จะส่งผลให้ภาระการผ่อนบ้าน สินเชื่อรถยนต์ และบัตรเครดิตเพิ่มสูงขึ้น ขณะที่ภาคธุรกิจของสหรัฐฯ จะเผชิญกับตลาดสินเชื่อที่ถดถอย และรัฐบาลเองก็จะไม่สามารถจ่ายเงินให้กับครอบครัวทหารและผู้สูงอายุที่ต้องพึ่งพาประกันสังคมได้” เยเลน กล่าว
ทั้งนี้ เยลเลน ประกาศเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมาว่า รัฐบาลสหรัฐฯ ได้ก่อหนี้เต็มเพดานที่ 31.381 ล้านล้านดอลลาร์ (ราว 1,076 ล้านล้านบาท) แล้ว จนทำให้กระทรวงการคลังต้องหันมาใช้ “มาตรการพิเศษทางบัญชี” เพื่อรักษาเงินสดเอาไว้ อย่างไรก็ตาม มาตรการดังกล่าวจะช่วยให้รัฐบาลกลางสามารถชำระหนี้ได้ถึงต้นเดือนมิถุนายนนี้เท่านั้น
(1 ดอลลาร์ = 34.29 บาท)