Newsต่างประเทศผู้ประกอบการหวั่น สินค้าในสหรัฐต้นทุนพุ่ง หากทรัมป์ขึ้นภาษีนำเข้าทองแดงและอลูมิเนียม

ผู้ประกอบการหวั่น สินค้าในสหรัฐต้นทุนพุ่ง หากทรัมป์ขึ้นภาษีนำเข้าทองแดงและอลูมิเนียม

 

นักวิเคราะห์และผู้มีส่วนร่วมในอุตสาหกรรมกล่าวเมื่อวันอังคาร (28 ม.ค.) ว่าแผนการเรียกเก็บภาษีนำเข้าทองแดงและอลูมิเนียมของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ จะทำให้ผู้บริโภคในสหรัฐฯ ต้องแบกรับต้นทุนที่สูงขึ้นเนื่องจากในประเทศผลิตได้ไม่พอ

 

ในการปราศรัยเมื่อวันจันทร์ (27 ม.ค.) ทรัมป์กล่าวว่า เขาจะเรียกเก็บภาษีนำเข้าอะลูมิเนียมและทองแดง ซึ่งเป็นโลหะที่จำเป็นต่อการผลิตฮาร์ดแวร์ทางการทหารของสหรัฐฯ รวมถึงเหล็ก เพื่อจูงใจให้ผู้ผลิตผลิตในสหรัฐฯ “เราต้องนำการผลิตกลับคืนสู่ประเทศของเรา” เขากล่าว

 

สหรัฐอเมริกาต้องนำเข้าทองแดง 38% ของความต้องการในประเทศ และต้องพึ่งพาการนำเข้าอลูมิเนียมเป็นอย่างมาก โดยมีอุปทานจากประเทศอื่นๆ เช่น แคนาดาและเม็กซิโก ครอบคลุม 82% ของการบริโภคต่อปี ตามข้อมูลของ BNP Paribas

 

ทรัมป์ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในเดือน พ.ย. โดยให้คำมั่นว่าจะลดค่าครองชีพให้ประชาชนชาวอเมริกัน แต่บรรดานักวิเคราะห์กล่าวว่า แผนการของทรัมป์ที่จะเรียกภาษีนำเข้าอาจสวนทางกับเป้าหมายของคำมั่นสัญญานี้ อีกทั้งยังไม่ชัดเจนว่ามาตรการภาษีดังกล่าวจะครอบคลุมกว้างขวางเพียงใด แต่ซีอีโอของบริษัทเหมืองแร่หลายแห่งกล่าวว่าพวกเขากำลังเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ต่างๆ ในขณะที่ตลาดกำลังเตรียมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงที่อาจเกิดขึ้นกับทิศทางการค้า

 

ในสหรัฐฯ ผู้ผลิตจะไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องโยนภาระต้นทุนที่สูงขึ้นจากการนำเข้าไปยังผู้บริโภคจนกว่าจะมีการลงทุนในอุตสาหกรรมปลายน้ำ (การกลั่น/การถลุง) ที่เหมาะสม” นาตาลี สก็อตต์-เกรย์ นักวิเคราะห์อาวุโสด้านโลหะจาก StoneX กล่าว

 

แดเนียล มอร์แกน นักวิเคราะห์จากธนาคารเพื่อการลงทุน Barrenjoey ในซิดนีย์กล่าวว่า โรงหลอมอลูมิเนียมและทองแดงในสหรัฐฯ ได้ทยอยปิดตัวลง และจำเป็นต้องลงทุนสร้างโครงสร้างพื้นฐานใหม่, ทำสัญญาซื้อไฟฟ้าใหม่ รวมถึงต้องจัดการเรื่องอื่นๆ  

 

มอร์แกนกล่าวเสริมว่า ผู้ผลิตอลูมิเนียมในแคนาดา เช่น Rio Tinto และ Alcoa ไม่น่าจะได้รับผลกระทบในแง่ของรายได้ แต่ต้นทุนน่าจะตกไปอยู่กับผู้ผลิตรถยนต์แทน จากนั้นต้นทุนเหล่านี้จะถูกส่งต่อไปยังผู้บริโภคในสหรัฐฯ 

 

โฆษกของ Alcoa ได้อ้างถึงความคิดเห็นของซีอีโอของบริษัทในการประชุมรายงานผลประกอบการเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งชี้ให้เห็นว่าอาจเกิดผลกระทบในวงกว้างต่ออุปทาน อุปสงค์ และทิศทางการค้า เขาประเมินว่า หากมีการเรียกเก็บภาษีนำเข้าจากสินค้าที่แคนาดาส่งไปขายยังสหรัฐฯ ในอัตรา 25% อาจส่งผลให้ลูกค้าในสหรัฐฯ ต้องแบกรับค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นปีละ 1,500-2,000 ล้านดอลลาร์ (50,565 67,420 บาท)

 

บี.เค. บาเทีย ตำแหน่ง additional secretary ของสหพันธ์อุตสาหกรรมแร่อินเดีย กล่าวว่า หากทรัมป์เรียกเก็บภาษีนำเข้า จะส่งผลกระทบเชิงลบโดยเฉพาะกับอลูมิเนียม เนื่องจากยุโรปกำลังดำเนินการจัดเก็บภาษีคาร์บอน และสหราชอาณาจักรอาจจัดเก็บภาษีนี้ด้วยเช่นกัน

 

จอห์น เฟนเนลล์ ซีอีโอของสมาคมทองแดงนานาชาติแห่งออสเตรเลีย ชี้ว่าหากสหรัฐฯ เก็บภาษีนำเข้าทองแดงจะส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมทองแดง เนื่องจากสหรัฐฯ เป็นผู้นำเข้าทองแดงสุทธิ แม้ว่ามาตรการดังกล่าวอาจเร่งการพัฒนาเหมืองใหม่ๆ เช่น โครงการเหมืองทองแดง Resolution ของ Rio Tinto ในรัฐแอริโซนา

 

แคธลีน ควิร์ก ซีอีโอของ Freeport-McMoRan กล่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า บริษัทเหมืองของตนจะไม่ได้รับผลกระทบจากภาษีนำเข้าทองแดง เนื่องจากทองแดงที่ผลิตในสหรัฐฯ ทั้งหมดจำหน่ายในประเทศ ส่วนทองแดงที่ผลิตในอินโดนีเซียก็ส่งไปจำหน่ายยังเอเชีย อย่างไรก็ตาม เธอกังวลเรื่องเงินเฟ้อที่อาจเกิดขึ้นจากมาตรการภาษีนำเข้าดังกล่าว

 

สำหรับญี่ปุ่น ซึ่งเป็นผู้ผลิตเหล็กรายใหญ่อันดับ 3 ของโลกนั้น โทโมมิจิ อากูตะ นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสจาก Mitsubishi UFJ Research and Consulting กล่าวว่า ภาษีนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียมในสมัยรัฐบาลทรัมป์หนึ่งมีผลกระทบเพียงเล็กน้อย 

 

“เหล็กที่ญี่ปุ่นส่งออกส่วนใหญ่เป็นผลิตภัณฑ์พิเศษที่มีมูลค่าสูง ซึ่งที่ผ่านมาได้รับการยกเว้นภาษี และเราคาดหวังว่าครั้งนี้ก็น่าจะได้รับการยกเว้นเช่นกัน… ผลิตภัณฑ์พิเศษที่มีมูลค่าสูงเหล่านี้ยากที่จะทดแทน ทำให้มีโอกาสตกเป็นเป้าหมายน้อยกว่า”” อากูตะ กล่าว

 

(1 ดอลลาร์ = 33.71 บาท



เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    คุกกี้ที่มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้งานเว็บไซต์ได้อย่างเป็นปกติ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณ เพื่อให้เราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมและความสนใจของคุณ

บันทึกการตั้งค่า