
สหรัฐแบนบริษัทจีนเพิ่ม อ้างบังคับใช้แรงงานคนอุยกูร์ ด้านจีนโต้ข้อกล่าวหา ชี้เป็นความพยายามสกัดจีน และสกัดการพัฒนาเศรษฐกิจในซินเจียง
สหรัฐฯ เมื่อวานนี้ (8 ส.ค.) ประกาศเพิ่มบริษัทจีน 5 แห่ง ในบัญชีรายชื่อบริษัทที่ถูกห้ามนำเข้าสินค้า หลังพบบังคับใช้แรงงานอุยกูร์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการกำจัดสินค้าที่ผลิตขึ้นจากการบังคับใช้แรงงานชาวอุยกูร์ออกจากห่วงโซ่อุปทานของสหรัฐฯ
บริษัทดังกล่าว ได้แก่ Rare Earth Magnesium Technology Group Holdings ซึ่งตั้งอยู่ในฮ่องกง และ Century Sunshine Group Holdings บริษัทแม่ซึ่งผลิตปุ๋ยแมกนีเซียมและผลิตภัณฑ์โลหะผสมแมกนีเซียมรวมถึงบริษัททำเหมืองโลหะที่ไม่ใช่เหล็ก ในเครือ Zijin Mining Group Co ที่ชื่อ Xinjiang Habahe Ashele Copper Co
โดยบริษัทข้างต้นถูกเพิ่มเข้าไปในรายชื่อบัญชีดำภายใต้พระราชบัญญัติป้องกันการบังคับใช้แรงงานชาวอุยกูร์ (UFLPA) ซึ่งจำกัดการนำเข้าสินค้าที่รัฐบาลสหรัฐฯ ระบุว่ามีส่วนในการ ‘ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์’ ในภูมิภาคซินเจียงของจีน
ส่งผลให้ปัจจุบัน มีบริษัทจีนที่ถูกสหรัฐฯ ขึ้นบัญชีดำภายใต้กฎหมาย UFLPA แล้วกว่า 70 แห่ง ประกอบด้วย บริษัทสิ่งทอ ชิ้นส่วนยานยนต์ พื้นไวนิล และแผงโซลาร์เซลล์ ฯลฯ
เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ เชื่อว่าทางการจีนได้จัดตั้งค่ายใช้แรงงานชาวอุยกูร์และชนกลุ่มน้อยมุสลิมอื่นๆ ในภูมิภาคซินเจียงทางตะวันตกของจีน อย่างไรก็ตาม จีนปฏิเสธข้อกล่าวหาทั้งหมด
ด้านโฆษกสถานทูตจีนประจำกรุงวอชิงตัน กล่าวในแถลงการณ์เมื่อวานนี้ว่า “สิ่งที่เรียกว่า ‘พระราชบัญญัติป้องกันการบังคับใช้แรงงานชาวอุยกูร์’ เป็นเพียงเครื่องมือของนักการเมืองสหรัฐฯ ที่ต้องการบั่นทอนเสถียรภาพในซินเจียงและจำกัดการพัฒนาของจีน” พร้อมเสริมว่า จีนจะยังคงปกป้องสิทธิและผลประโยชน์ที่ถูกต้องตามกฎหมายของบริษัทจีนต่อไป