สหรัฐฯ อนุมัติขายอาวุธ ให้อิสราเอล 6.65 แสนล้าน โดยได้ส่งระเบิดทำลายล้างสูงน้ำหนัก 2,000 ปอนด์ มากกว่า 10,000 ลูก ตั้งแต่เดือน ต.ค.ที่ผ่านมา
รัฐบาลสหรัฐฯ อนุมัติการขายอาวุธมูลค่ากว่า 2 หมื่นล้านดอลลาร์ ให้แก่อิสราเอล ในขณะที่การสู้รบในฉนวนกาซาดำเนินมาถึงเดือนที่ 10
กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ระบุในแถลงการณ์ว่า แอนโธนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ได้อนุมัติการขายเครื่องบินรบ F-15 และยุทโธปกรณ์ต่างๆ มูลค่าเกือบ 1.9 หมื่นล้านดอลลาร์ (6.65 แสนล้านบาท) พร้อมด้วยกระสุนรถถังมูลค่า 774 ล้านดอลลาร์ (2.7 หมื่นล้านบาท) กระสุนปืนครกมูลค่ากว่า 60 ล้านดอลลาร์ (2.1 พันล้านบาท) และยานพาหนะทางทหารมูลค่า 583 ล้านดอลลาร์ (2.04 หมื่นล้านบาท)
กระทรวงกลาโหมระบุว่า การผลิตเครื่องบินรบ F-15 ของ Boeing จะใช้เวลาหลายปี โดยคาดว่าจะเริ่มส่งมอบได้ในปี 2029 ขณะที่อุปกรณ์อื่นๆ จะเริ่มส่งมอบได้ในปี 2026
“สหรัฐฯ สนับสนุนความมั่นคงของอิสราเอล และการให้ความช่วยเหลืออิสราเอลในการพัฒนาและรักษาขีดความสามารถในการป้องกันตนเองที่แข็งแกร่งและพร้อมรบ ถือเป็นสิ่งสำคัญต่อผลประโยชน์ของสหรัฐฯ” กระทรวงกลาโหม กล่าว
เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ กล่าวกับสำนักข่าวรอยเตอร์เมื่อเดือน มิ.ย. ว่า สหรัฐฯ ซึ่งเป็นพันธมิตรและผู้จัดหาอาวุธรายใหญ่ที่สุดของอิสราเอล ได้ส่งระเบิดทำลายล้างสูงน้ำหนัก 2,000 ปอนด์ มากกว่า 10,000 ลูก และขีปนาวุธเฮลไฟร์หลายพันลูกให้กับอิสราเอลนับตั้งแต่สงครามกาซาเริ่มต้นขึ้นในเดือน ต.ค.
การสู้รบระหว่างอิสราเอลและฮามาสได้สร้างความเสียหายอย่างหนักแก่ฉนวนกาซา และทำให้พลเรือนเสียชีวิตจำนวนมาก ด้วยความหวังว่าจะป้องกันสงครามที่อาจขยายวงกว้างในตะวันออกกลาง รัฐบาลสหรัฐได้พยายามร่วมกับตัวกลางอื่นๆ เพื่อยุติการสู้รบ
(1 ดอลลาร์ = 34.99 บาท)