ให้แต่เงิน ยังไม่พอที่จะฟื้นฟูยูเครน ‘สคต.’ ชี้ยูเครนประสบปัญหาขาดแคลนแรงงานอย่างหนัก ถูกเกณฑ์ทหารจนขาดแคลนแรงงานฟื้นฟูประเทศ
สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ (สคต.) รายงานว่าบริษัทเยอรมนีได้ลงทุนกับบริษัทผู้ผลิตวัสดุก่อสร้างในยูเครนไปแล้วถึง 1.5 ล้านยูโร (59 ล้านบาท) เพื่อฟื้นฟูให้โรงงานดังกล่าวกลับมาประกอบกิจการได้ นอกจากนี้เยอรมนีเล็งเห็นถึงโอกาสในด้านการผลิต เวชภัณฑ์ยา พลังงาน ไอที และ Outsourcing ในยูเครน และคาดว่าจะช่วยให้สามารถตีตลาดยูเครนได้ง่ายขึ้น
ถึงแม้ว่าในปี 2564 ยูเครนจะอยู่ในภาวะสงคราม จนทำให้ประชาชนมีรายได้ไม่ถึง 5,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อคนต่อปี (183,700 บาทต่อคนต่อปี) แต่ GDP ของยูเครนกลับเพิ่มขึ้นมากกว่า 3 เท่า ในช่วงสองทศวรรษที่ผ่านมา และการโจมตีครั้งใหญ่ของรัสเซียในเดือน ก.พ. 2565 จะทำให้ GDP ของยูเครนลดลงถึง 30% แต่เศรษฐกิจของยูเครนกลับฟื้นตัวเร็วกว่าที่หลายฝ่ายคาดการณ์
(สงครามระหว่างรัสเซีย และยูเครน ดำเนินมาตั้งแต่ปี 2557 แล้ว การรุกรานยูเครนของรัสเซีย ในวันที่ 24 ก.พ. 2565 เป็นการขยายขอบเขตของการทำสงครามให้กว้างขึ้น)
ธนาคารโลกประเมินว่ายูเครนต้องใช้เงินกว่า 486 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ (17.86 ล้านล้านบาท) ในการฟื้นฟูบ้านเมืองที่เสียหายจากสงคราม ซึ่งเงินจำนวนดังกล่าวเป็นเงินที่สหรัฐและสหภาพยุโรปจะมอบให้ หรือสัญญาว่าจะให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมคิดเป็นตัวเงินจำนวน 71.8 พันล้านยูโร (2.8 ล้านล้านบาท) ซึ่งจะทำให้เกิดการลงทุนในบริษัทท้องถิ่นอย่างแน่นอน
อย่างไรก็ดียูเครนยังคงประสบปัญหาการขาดแคลนแรงงานอย่างรุนแรง เนื่องจากแรงงานชาวยูเครนถูกเกณฑ์ทหาร จากความต้องการระดมพลอย่างเร่งด่วนของรัฐบาลยูเครน ที่ต้องการระดมกำลังทหารเกณฑ์ให้ถึง 5 แสนคนให้ได้โดยเร็วที่สุด
ถึงแม้ว่ารัฐบาลยูเครนจะอนุญาตให้แรงงานบางส่วนในภาคธุรกิจก่อสร้าง และพลังงาน ได้รับการยกเว้นไม่ต้องเข้าเกณฑ์ทหารก็ตาม แต่ปัญหาการขาดแคลนบุคลากรก็ยังคงเป็นหนึ่งในปัญหาที่ใหญ่ที่สุดสำหรับผู้ประกอบการในประเทศยูเครน เนื่องจากภาวะสงคราม นำมาซึ่งความเสี่ยงด้านความปลอดภัยที่สูงขึ้น
สำหรับปัญหาเรื่องพลังงานไม่เพียงพอ จนทำให้เกิดไฟฟ้าดับเป็นบางช่วงนั้น นาย Artem Pryymachenko กรรมการผู้จัดการบริษัทผู้ผลิตวัสดุก่อสร้างในยูเครน ซึ่งได้รับเงินลงทุนจากเยอรมนีกล่าวว่า “ตราบใดที่ไฟฟ้าดับไม่เกิน 24 ชั่วโมง เราก็สามารถผลิตต่อไปโดยใช้ปั่นไฟฟ้าได้”