ไบเดน โง่มากที่อนุมัติยูเครน ใช้ขีปนาวุธโจมตีดินแดนรัสเซีย ‘ทรัมป์’ ระบุอาจเพิกถอนการอนุมัติเมื่อเขารับตำแหน่ง
โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวว่า ประธานาธิบดี โจ ไบเดน ของสหรัฐฯ ทำ “เรื่องโง่เขลาอย่างมาก” ด้วยการอนุมัติให้กองทัพยูเครนใช้ขีปนาวุธวิสัยไกลของอเมริกาโจมตีลึกเข้าไปในดินแดนรัสเซีย
ไบเดน อนุญาตให้ยูเครนใช้ขีปนาวุธพิสัยไกล ATACMS ที่สหรัฐฯ จัดหาให้โจมตีเป้าหมายต่างๆ ในดินแดนรัสเซียที่ได้รับการรับรองจากนานาชาติเมื่อเดือนที่แล้ว ทั้งๆ ที่ทราบดีว่าทรัมป์จะคัดค้านความเคลื่อนไหวดังกล่าว
ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา กองกำลังของยูเครนได้ปฏิบัติการโจมตีหลายครั้งโดยใช้ขีปนาวุธดังกล่าว รวมถึงการโจมตีสนามบินทหารแห่งหนึ่งใกล้เมืองทาแกนรอก ทางตอนใต้ของรัสเซียเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ตามรายงานของกระทรวงกลาโหมรัสเซีย ขีปนาวุธ 2 ลูกจาก 6 ลูกที่กองกำลังยูเครนยิงออกมาถูกสกัดกั้นด้วยระบบป้องกันทางอากาศ ส่วนลูกที่เหลือถูกเบี่ยงเบนทิศทางด้วยระบบสงครามอิเล็กทรอนิกส์
“ผมไม่คิดว่าพวกเขาควรอนุญาตให้มีการยิงขีปนาวุธระยะไกล 200 ไมล์เข้าไปในดินแดนรัสเซีย” ทรัมป์กล่าวระหว่างการแถลงข่าวที่คฤหาสน์ “มาร์ อะ ลาโก” ในฟลอริดาเมื่อวันจันทร์ (16 ธ.ค.)
“พวกเขาไม่ควรอนุญาตให้ทำเช่นนั้น โดยเฉพาะในช่วงเวลาเพียงไม่กี่สัปดาห์ก่อนที่ผมจะเข้ารับตำแหน่ง ทำไมพวกเขาถึงทำแบบนั้นโดยไม่ถามความเห็นผมก่อน” “ผมคิดว่ามันเป็นการกระทำที่โง่มากๆ” ทรัมป์ กล่าว พร้อมเสริมว่า เขาอาจเพิกถอนการอนุมัติดังกล่าวเมื่อเขารับตำแหน่งในเดือนหน้า
ที่ผ่านมา ทรัมป์กล่าวหาไบเดนซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่ากำลังลากสหรัฐเข้าสู่สงครามกับรัสเซีย และความคิดเห็นในวันจันทร์ถือเป็นครั้งที่สองในรอบสัปดาห์ที่เขาประณามการตัดสินใจของไบเดนในการอนุมัติการโจมตีระยะไกลด้วยขีปนาวุธ ATACMS
“สิ่งที่อันตรายที่สุดในตอนนี้คือความจริงที่ว่า ผู้นำยูเครนได้ตัดสินใจโดยได้รับการอนุมัติจากไบเดน ที่จะเริ่มยิงขีปนาวุธเข้าไปในดินแดนรัสเซีย ซึ่งผมคิดว่าเป็นการยกระดับความรุนแรงครั้งใหญ่ และผมคิดว่ามันเป็นการตัดสินใจที่โง่เขลา” ทรัมป์ กล่าวกับนิตยสาร Time เมื่อวันพฤหัสบดี (12 ธ.ค.)
รัสเซียมองว่าการโจมตีดังกล่าวเป็นการยกระดับความรุนแรง เนื่องจากอาวุธเหล่านี้ไม่สามารถยิงได้ “หากปราศจากการมีส่วนร่วมโดยตรงจากผู้เชี่ยวชาญด้านการทหารจากประเทศผู้ผลิต” ประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย กล่าวเมื่อเดือนที่แล้ว
รัสเซียได้ตอบโต้การโจมตีดังกล่าว ด้วยการยิงขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียงพิสัยกลางแบบไม่ใช่อาวุธนิวเคลียร์รุ่นใหม่ที่มีชื่อว่า ‘โอเรชนิค‘ ที่แปลว่าต้นเฮเซลนัทในภาษารัสเซีย ถล่มฐานทัพอุตสาหกรรมการทหารของยูเครนในเมืองดนิโปร ซึ่งกระทรวงกลาโหมของรัสเซียกล่าวว่า การโจมตีสนามบินทางทหารใกล้เมืองทาแกนรอก จะเจอกับการตอบโต้อย่างสาสมเช่นกัน
ดมิทรี เปสคอฟ โฆษกรัฐบาลรัสเซีย กล่าวระหว่างให้สัมภาษณ์เมื่อวันศุกร์ (13 ธ.ค.) ว่ารัสเซียเห็นด้วยกับจุดยืนของทรัมปป์ว่าการโจมตีด้วยขีปนาวุธพิสัยไกลเข้ามาในดินแดนรัสเซียนั้นเป็นอันตราย และเห็นได้ชัดว่าทรัมป์เข้าใจดีว่าอะไรกำลังทำให้สถานการณ์ความขัดแย้งรุนแรงยิ่งขึ้น
ทรัมป์ให้คำมั่นมาโดยตลอดว่าจะยุติความขัดแย้งในยูเครนภายใน 24 ชั่วโมงหลังเข้ารับตำแหน่ง ซึ่งทั้งเคียฟและมอสโกต่างก็แสดงความสงสัยในเรื่องนี้ ในระหว่างการแถลงข่าวเมื่อวันจันทร์ (16 ธ.ค.) ทรัมป์ยอมรับว่าการแก้ไข “สถานการณ์รัสเซีย-ยูเครน” อาจ “ยากกว่า” การยุติความขัดแย้งในตะวันออกกลาง