
คำพิพากษาคดี True ID (โจทก์) VS ศ.ดร. พิรงรอง รามสูต กก. กสทช. (จำเลย)
ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง เผยแพร่คำพิพากษาในคดีที่ บริษัททรู ดิจิทัล กรุ๊ป จำกัด ผู้ให้บริการแอปพลิเคชัน True ID เป็นโจทก์ ฟ้อง ศ.ดร.พิรงรอง รามสูต คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เป็นจำเลย ในข้อหาปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157
ซึ่งศาลมีประเด็นสำคัญในการพิจารณาดังนี้
1 โจทก์เป็นผู้ให้บริการแอปพลิเคชัน True ID ประเภท Over The Top หรือ (โอทีที) ผ่านอินเทอร์เน็ตสาธารณะที่ไม่มีการบริหารจัดการโครงข่ายเป็นการเฉพาะ ซึ่ง กสทช. ไม่เคยกำหนดให้ผู้ให้บริการแอปพลิเคชันหรือแพลตฟอร์มดังกล่าวต้องขอรับใบอนุญาตแต่อย่างใด
2 ศาลเห็นว่าจำเลยซึ่งเป็นคณะกรรมการ กสทช. ถือว่าเป็นเจ้าพนักงานของรัฐตามกฎหมาย ตามพระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2553 มาตรา 25
3 จำเลยเป็นผู้สั่งการและเร่งรัดให้จัดทำบันทึกร่างหนังสือ และส่งหนังสือไปยังผู้ประกอบกิจการกระจายเสียงหรือโทรทัศน์ รวม 127 ราย ซึ่งส่งผลให้ผู้ประกอบการหลายรายได้ชะลอหรือขยายระยะเวลาเข้าทำนิติกรรมกับโจทก์
4 การเร่งรัดให้มีการทำหนังสือข้างต้น เป็นการกระทำโดยไม่ผ่านมติที่ประชุม
5 จำเลยต่อว่าเจ้าหน้าที่ กสทช. ที่ทำหนังสือโดยไม่ระบุถึงโจกท์ และมีการแก้ไขรายงานการประชุมให้ระบุว่าที่ประชุมมีมติให้แจ้งผู้ให้บริการ ซึ่งไม่เป็นความจริง
6 ในการประชุม กสทช. จำเลยให้เตรียมความพร้อมที่จะล้มหรือระงับการให้บริการแอปพลิเคชัน True ID ของโจทก์ โดยใช้คำพูดว่า “ต้องเตรียมตัวจะล้มยักษ์” และจำเลยก็ยอมรับว่า คำว่า “ยักษ์” หมายถึงโจทก์ ถ้อยคำดังกล่าวเป็นการสื่อความหมายชัดเจนว่า ประสงค์ให้กิจการของโจทก์ได้รับความเสียหาย
คำตัดสินของศาล
พฤติการณ์ของจำเลยดังกล่าวเป็นการปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ชอบ เจตนามุ่งประสงค์กลั่นแกล้งโจทก์และใช้อำนาจหน้าที่ของตนไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์และขั้นตอนที่กฎหมายกำหนด ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย
เพราะภายหลังจากมีหนังสือดังกล่าวแจ้งไปยังผู้ประกอบการรวม 127 รายแล้ว มีผู้ประกอบกิจการหลายรายได้ชะลอหรือขยายระยะเวลาเข้าทำนิติกรรมกับโจทก์
การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ส่วนพยานหลักฐานของจำเลยไม่มีน้ำหนักหักล้างพยานหลักฐานของโจทก์ได้
ศาลพิพากษาจำคุก 2 ปี และได้ให้ประกันตัววงเงิน 120,000 บาท พร้อมเงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกประเทศ