ร้อนจัดจนผักแพง ราคาเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 36% ‘ศูนย์วิจัยกสิกรไทย’ ชี้ภาวะโลกร้อนอาจทำให้ปีหน้า ราคาผักแพงกว่านี้
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยเปิดเผยว่าเดือนเมษายนปีนี้อากาศร้อนจัด ดันราคาผักพุ่งขึ้นถึง 36% แต่กิโลกรัมละ 78 บาทต่อกรัม อีกทั้งยังระบุว่า ราคาผัก 10 ชนิดที่มีแนวโน้มจะปรับราคาสูงขึ้นในช่วงหน้าร้อนได้แก่ ผักชี, ต้นหอม, ขึ้นฉ่าย, แตงกวา, ถั่วฝักยาว, มะระจีน, มะนาว, ข้าวโพดฝักอ่อน, คะน้า และขิงอ่อน
แต่ราคาดังกล่าวจะทยอยปรับลงในช่วงที่เหลืออยู่ของปี 2567 ตามฤดูกาล แต่คาดว่าทั้งปีจะมีราคาสูงอยู่ และในปีต่อ ๆ ไป ด้วยสภาพอากาศที่แปรปรวนจะส่งผลให้ราคาผักแพงยิ่งขึ้นไปอีก
ทั้งนี้ได้มีการแสดงกราฟแสดงราคาผักในแต่ละเดือนตั้งแต่ปี 2565 – เม.ย. 2567 โดยในปี 2566 ผักมีราคาสูงที่สุดในช่วงเดือนเมษายนเช่นกัน และมีราคาค่อนข้างใกล้เคียงกับปีนี้ ในขณะที่ปี 2565 ผักมีราคาสูงในเดือนกันยายน และพฤศจิกายน
มีการอ้างอิงรายงานจากกรมการค้าภายในว่า ราคาผักที่สูงขึ้นนั้นจะกระทบ 3 กลุ่มหลัก ๆ ได้แก่ ภาคครัวเรือน 24 ล้านครัวเรือน, ร้านอาหาร 6.8 แสนราย และธุรกิจแปรรูปอาหารจากผักและผลไม้ 1,753 รายทั่วประเทศ
และเมื่อเทียบราคาผัก 5 ชนิดที่มีราคาสูงขึ้นจากเดือนเม.ย. 2566 พบว่า
– ขึ้นฉ่ายเพิ่มขึ้นสูงที่สุด 76% จาก 64 เป็น 111 บาทต่อ ก.ก.
– ผักชี เพิ่มขึ้น 59% จาก 109 เป็น 173 บาทต่อ ก.ก.
– มะระจีน เพิ่มขึ้น 44% จาก37 เป็น 53 บาทต่อ ก.ก.
– ถั่วฝักยาว เพิ่มขึ้น 40% จาก 58 เป็น 81 บาทต่อ ก.ก.
– แตงกวา เพิ่มขึ้น 38% จาก26 เป็น 36 บาทต่อ ก.ก.
มีรายงานเพิ่มเติมว่า อากาศที่ร้อนจัดทำให้ผลผลิตทางการเกษตรเสียหายเป็นวงกว้าง โดยทวีปเอเชียถือเป็นทวีปที่ได้รับผลกระทบสูงที่สุด
และในเวียดนาม มีรายงานว่าปลานับแสนในอ่างเก็บน้ำซองเมย์ จังหวัดดองไน ล้มตาย เพราะอากาศร้อนจัดจนน้ำในอ่างเก็บแห้งขอด