
“ครั้งที่เราเปลี่ยนเยอะที่สุด คือสมัยรัชกาลที่ 5 ยุคนั้นคือยุคที่ประเทศไทยเปลี่ยนอย่างก้าวกระโดด เพราะเรากําลังเผชิญกับภัยคุกคามครั้งยิ่งใหญ่ ที่เอาอนาคตของชาติเป็นตัวตัดสิน”
ดร.กอบศักดิ์ ภูตระกูล กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพจำกัด (มหาชน) และอดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวในงาน “Thailand Next: เปลี่ยนใหญ่ประเทศไทย” เมื่อวันที่ 3 ต.ค. 2567 ว่าถ้าเราจะเปลี่ยนแปลงประเทศได้ เราต้องพูดจากความจริงเสียก่อน และความจริงก็คือบ้านของเรานั้นเริ่มเก่าแล้ว และเรากำลังจะถูกเพื่อนหน้า
นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นมานานแล้ว และเราไม่ค่อยอยากจะยอมรับความจริง เราไม่อยากจะคิดว่านี่คือปัญหาของประเทศไทย คิดว่าเป็นปัญหาสั้น ๆ เป็นปัญหาเฉพาะ แต่ถ้าเราต้องการจะเปลี่ยนประเทศ เราต้องเริ่มจากปัญหาเหล่านี้
เศรษฐกิจไทยไม่โตขึ้น ในขณะที่มาเลเซียยังโตอยู่ 4 – 5% อินโดนีเซียโต 5% และฟิลิปปินส์โต 6% ในขณะที่ไทยโตเพียง 2 – 3% โรงงานกำลังทยอยปิดตัว เด็กไทยสอบได้คะแนนต่ำกว่าคนอื่นเรื่อย ๆ ซึ่งนี่เป็นเรื่องที่น่าหนักใจว่าอนาคตของชาติจะเป็นอย่างไร ผลสอบนั้นชี้ชัดว่าเด็กไทยเราแพ้เขาทั้งวิชาภาษาอังกฤษ วิทยาศาสตร์ และคณิตศาสตร์ อีกทั้งคะแนนยังด้อยลงเรื่อย ๆ
ฐานรากของเรา เกษตรกรอยู่ยากขึ้นเรื่อย ๆ อยู่ได้เพราะรัฐบาลช่วย มีหนี้สินเต็มไปหมด เสียที่ดินไปทุกที่ จนกลายเป็นพื้นที่ที่มีแต่ความอ่อนแอ แม้จะย้ายเข้าเมืองมาก็มีหนี้เสีย ทรัพยากรธรรมชาติกำลังเสื่อมโทรม ระบบราชการก็เต็มไปด้วยขั้นตอน และอุปสรรคมากมาย
เมื่อนำปัญหาเหล่านี้เข้ามาประกอบกัน ก็จะเห็นได้ว่าประเทศไทยไม่เหมือนเดิม เราไม่ใช่คนที่เข้มแข็ง ไม่ใช่คนที่จะเอาชนะคนอื่นได้ แต่กลายเป็นคนที่กําลังเสื่อมถอย ซึ่งนี่เป็นเรื่องที่น่ากังวลใจ
คนชอบพูดกันว่าโลกกำลังเปลี่ยน แต่สิ่งที่คนไม่ค่อยชอบพูดกันก็คือ สำหรับคนที่เสื่อมถอยอยู่แล้ว การที่โลกเปลี่ยนเร็ว จะทำให้เราเสื่อมถอยในอัตราเร่งยิ่งขึ้นจากเดิม
ซึ่งถ้าในภาคธุรกิจเอกชน ไม่สามารถที่จะเปลี่ยนแปลงได้ ในขณะที่โลกกำลังเปลี่ยนเร็ว อีกไม่นานเราเจ๊งแน่ ถึงแม้ว่าการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี จะเปิดโอกาสให้กับธุรกิจใหม่ ๆ แต่บริษัทที่เคยเป็นเบอร์ 1 อย่างโนเกีย และบล็อกบัสเตอร์ อีกไม่นานอาจจะหายสาบสูญไปเลยก็ได้
“ความเปลี่ยนของโลกที่เรียกว่า Great Disruption (ความปั่นป่วนครั้งใหญ่) ที่เราเห็นจากเรื่องเทคโนโลยี เรื่องของคู่แข่งเรื่องของ Climate (การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ) เรื่องของ Geopolitics (ภูมิรัฐศาสตร์) กําลังเกิดขึ้นเต็มไปหมดรอบตัวเรา
แต่ว่าประเทศไทย เรากําลังมีปัญหาที่ เรากําลังเสื่อมถอย แล้วเราไม่ยอมเปลี่ยนตัวเอ งผมเลยบอกไงครับว่านี่คือทําไมเราต้องนําไปสู่คําว่าเปลี่ยนใหญ่ เปลี่ยนใหญ่ที่เรียกว่า Great Transition (การเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่)
เราต้องพยายามคิดว่า เราจะเปลี่ยนตัวเองให้ทันกับยุคสมัย ให้ทันกับความท้าทายที่เกิดขึ้นได้อย่างไร แล้วผมอยากจะบอกทุกคนอย่างนึงนะครับว่าผมไปนั่งคิดดู ประเทศไทยเปลี่ยนใหญ่ครั้งที่แล้วมันเมื่อไหร่กัน? คือเมื่อ 150 ปีที่แล้ว” ดร.กอบศักดิ์ กล่าว และกล่าวต่อว่าที่ผ่านมาเราก็เปลี่ยนแปลง แต่เราเปลี่ยนอย่างค่อย ๆ เป็น ค่อย ๆ ไป
“ครั้งที่เราเปลี่ยนเยอะที่สุด ก็คือสมัยรัชกาลที่ 5 ถ้าเกิดทุกคนจำได้นะครับ ยุคนั้นคือยุคที่ประเทศไทยเปลี่ยนอย่างก้าวกระโดด เพราะเรากําลังเผชิญกับภัยคุกคามครั้งยิ่งใหญ่ ที่เอาอนาคตของชาติเป็นตัวตัดสิน
วันนั้นพระองค์ท่านก็ตัดสินใจที่จะเปลี่ยนเรื่องเลิกทาส เรื่องของระบบคมนาคมขนส่ง เรื่องของการปกครอง เรื่องของกระบวนการต่างๆ เต็มไปหมดเลย
ผมว่านั่นคือการเปลี่ยนใหญ่ของประเทศไทยที่ทำให้เรามีวันนี้ ผมคิดว่าเรามาได้ดีสักพักนะครับ แต่ผมว่าวันเนี้ยเรากําลังเข้าสู่จุดเดียวกันอีกครั้ง อเป็นจุดที่โลกกําลังพลิกโฉมครั้งใหญ่ สถานการณ์ต่างๆ กําลังคับขันขึ้นเรื่อยๆ เพียงแต่ว่าเรากําลังลังเล เราไม่ยอมตัดสินใจในหลายเรื่อง” ดร.กอบศักดิ์
และกล่าวต่อว่า ทั้งหมดนี้เป็นที่มาของข้อเสนอในวันนี้ ของนักศึกษาหลักสูตรวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) รุ่นที่ 66 ที่จะมาช่วยให้ประเทศไทย สามารถรองรับกับความท้าทายของการเปลี่ยนแปลงของโลกได้