
ศาลสั่ง คปท.-ศปปส. ให้ยุติการชุมนุมใน 7 วัน ชี้รบกวนการเรียน สร้างความไม่ปลอดภัยในการเดินทางของนักศึกษา แกนนำประกาศไม่ยุติการชุมนุม เตรียมยื่นอุทธรณ์ต่อศาล
ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลนางเลิ้งยื่นคำร้องขอให้ศาลแพ่งมีคำสั่งยกเลิกการชุมนุมคดีของกลุ่มศปปสเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) ร่วมกับกลุ่มศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน (ศปปส.)ที่จัดการชุมนุมค้างคืนที่บริเวณเชิงสะพาน ชมัยมรุเชษฐ์ ถนนพิษณุโลกแขวงสวนจิตรลดา เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร
ขอให้มีคำสั่งให้กลุ่มผู้ชุมนุม รื้อถอนเต็นท์ที่ปิดทับช่องจราจรและป้ายรถโดยสารประจำทาง, มีคำสั่งให้กลุ่มผู้ชุมนุมเปิดช่องทางการจราจรบนถนนพิษณุโลกเพิ่มหนึ่งช่องทางจากที่ปิด 2 ช่องทาง และขอให้กลุ่มผู้ชุมนุมหยุดกิจกรรมชุมนุมในวันที่ 29 ก.ค.2567
ศาลแพ่งพิเคราะห์หลักฐานของผู้ร้องแล้ว เห็นว่าการกระทำของผู้ชุมนุมตลอด 5 เดือนที่ผ่านมา ตั้งแต่วันที่ 18 ก.พ. 2567 สร้างความเดือดร้อนให้แก่อาจารย์ เจ้าหน้าที่และนักศึกษาในการเดินทางเข้าออก อีกทั้งยังมีการปราศรัยส่งเสียงดังรบกวน การเรียนการสอน และมีการตั้งเต็นท์ปิดบังบ้านรถประจำทางอีกด้วย นอกจากนี้รถสุขาเคลื่อนที่ 2 คันของกลุ่มผู้ชุมนุมยังส่งกลิ่นเหม็นเข้ามาในมหาวิทยาลัย
ตลอด 10 ปีที่ผ่านมา มีการชุมนุมหลายครั้ง หลายกลุ่ม แต่ทางมหาวิทยาลัยไม่มีปัญหา แต่ครั้งนี้นักศึกษาต้องขึ้นรถประจำทางกลางถนน ซึ่งไม่มีความปลอดภัย และถึงแม้ทางมหาวิทยาลัยพยายามนัดเจรจาแต่กลุ่มผู้ชุมนุมหลีกเลี่ยงไม่มาพบ
เมื่อวันที่ 27 มิ.ย. 2567 ทางมหาวิทยาลัยได้ยื่นหนังสือถึง สน. นางเลิ้ง ผู้ร้องขอ ขอให้แก้ปัญหาจากการปักหลักชุมนุม พร้อมให้ข้อมูลผลกระทบจากการชุมนุม โดยมีบุคลากร และนักศึกษา 107 คนร่วมลงลายมือชื่อเป็นผู้ได้รับเดือดร้อน ถือได้ว่าเป็นการชุมนุมสาธารณะที่เป็นการขัดขวางเกินสมควรต่อประชาชน
อีกทั้งยังเป็นการก่อให้เกิดความไม่สะดวกแก่ประชาชนและนักศึกษา ที่จะใช้ที่สาธารณะได้รับความเดือดร้อนเกินที่พึงคาดหมายได้ว่าเป็นไปตามเหตุอันควรตาม พรบ.การชุมนุมสาธารณะ พ.ศ. 2558 มาตรา 15 (2) และ 16 (1)
ผู้ร้อง ในฐานะเจ้าพนักงานดูแลการชุมนุมสาธารณะ ได้ประกาศแจ้งต่อกลุ่มผู้ชุมนุมให้มีการแก้ไขแล้วถึง 4 ครั้ง แต่ได้รับการเพิกเฉย ผู้ถูกร้องจึงมีความชอบในการยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งเลิกการชุมนุมได้
อีกทั้งผู้ชุมนุมได้ชุมนุมมานานถึง 5 เดือน นับว่าผู้ชุมนุมได้ใช้เสรีภาพแสดงความคิดเห็นของตนอย่างเพียงพอแล้ว และการสร้างผลกระทบต่อผู้อื่นถือเป็นการเอาแต่ใช้สิทธิของกลุ่มตนเกินสมควรไปมาก โดยไม่คำนึงถึงความเดือดร้อนของประชาชนคนอื่นด้วย
ศาลแพ่งจึงมีคำสั่งให้ยุติการชุมนุมภายในเวลา 7 วัน นับแต่วันที่ศาลมีคำสั่งเป็นต้นไป
ด้านนายพิชิต ไชยมงคล แกนนำเครือข่ายนักศึกษา ประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) กล่าวว่าตนรับทราบคำสั่งแล้ว แต่จะยังไม่ยุติการชุมนุม และเตรียมการยื่นขออุทธรณ์ต่อศาลต่อไป
มีรายงานว่าการชุมนุมในบริเวณดังกล่าว ยังไม่มีความเคลื่อนไหวใด ๆ ออกมา