Newsเร่งต่อยอดดัน “พร้อมเพย์” ไปสู่ภาคธุรกิจ เตรียมปรับระบบโอนเงินช่วยนักช็อปออนไลน์ จ่ายเงินเมื่อของมาถึง

เร่งต่อยอดดัน “พร้อมเพย์” ไปสู่ภาคธุรกิจ เตรียมปรับระบบโอนเงินช่วยนักช็อปออนไลน์ จ่ายเงินเมื่อของมาถึง

ธปท.เร่งพัฒนา “ระบบพร้อมเพย์” หลังออกมา 6 ปี คนใช้กว่า 71 ล้านบัญชี โอนเงินวันละ 1.2 แสนล้านบาท เตรียมปรับระบบโอนเงินช่วยนักช็อปออนไลน์ จ่ายเงินเมื่อของมาถึง

 

นายรณดล นุ่มนนท์ รองผู้ว่าการด้านเสถียรภาพสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวถึง “ทิศทางการพัฒนาระบบการชำระเงิน ภายใต้ภูมิทัศน์ใหม่ภาคการเงินไทย” ภายใต้แผนกลยุทธ์การพัฒนาระบบชำระเงินในระยะ 3 ปี (พ.ศ.2565-2567) ว่า ระบบการชำระเงินดิจิทัลของไทยมีพัฒนาการอย่างต่อเนื่อง และระบบพร้อมเพย์ที่ถือเป็น game changer หรือจุดเปลี่ยนที่สำคัญของระบบการชำระเงินไทย 

 

โดยนับตั้งแต่เปิดเริ่มให้บริการในปลายปี 2559 จนถึงปัจจุบันมีผู้ลงทะเบียนแล้วถึง 71 ล้านหมายเลข มีปริมาณการทำรายการธุรกรรมการเงินเฉลี่ยถึงวันละ 38 ล้านรายการ มูลค่ากว่า 120,000 ล้านบาท และได้รับการพัฒนาต่อยอดบริการที่หลากหลาย เช่น การชำระเงินผ่านคิวอาร์โค้ด การส่งคืนภาษีเงินได้ผ่านพร้อมเพย์ การจ่ายเงินสวัสดิการ การบริจาคเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-Donation)

 

นอกจากนี้ ยังพัฒนาพร้อมเพย์เชื่อมโยงระบบการชำระเงินและโอนเงินกับต่างประเทศ โดยโครงการที่รู้จักแพร่หลาย คือ การเชื่อมโยงระบบพร้อมเพย์ไทยกับระบบเพย์นาวของสิงคโปร์ เพื่อโอนเงินระหว่างประเทศ ซึ่งเป็นการเชื่อมโยง 2 fast payment คู่แรกของโลก และได้รับรางวัล “Initiative of the Year” ประจำปี 2565 จากวารสารธนาคารกลาง และล่าสุดไทยยังมีการเชื่อมโยงบริการชำระเงินกับอีก 5 ประเทศ คือ ญี่ปุ่น กัมพูชา เวียดนาม มาเลเซีย และอินโดนีเซีย

 

นอกจากนี้ ยังผลักดันการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและเทคโนโลยีทางการเงิน เช่น การนำ blockchain มาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการโอนเงิน โดยในช่วงต่อไป ธปท.จะเร่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานการทำธุรกรรมการค้าและการชำระเงินของธุรกิจแบบดิจิทัลที่ครบวงจร หรือที่เรียกว่าโครงการ PromptBiz หรือพร้อมเพย์ของภาคธุรกิจ เพื่อให้สามารถลดเอกสาร ลดเวลา ลดต้นทุน และเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันทั้งการชำระเงินในประเทศ และระหว่างประเทศได้มากขึ้น

 

นายรณดล กล่าวต่อว่า ในยุคดิจิทัลจะมีความเสี่ยงใหม่ๆ ทำให้ต้องพัฒนาเครื่องมือและ บุคลากรด้านการกำกับดูแลให้มีทักษะความรู้อย่างเพียงพอ รวมทั้งสร้างความร่วมมือให้เตรียมพร้อมรองรับภัยไซเบอร์ โดย ธปท.ตั้งผลสัมฤทธิ์ของทิศทางการชำระเงินฉบับนี้ ซึ่งได้กำหนดเป้าหมายความสำเร็จให้ท้าท้ายมากขึ้น โดยจะขยายการใช้การชำระเงินดิจิทัลเพิ่มขึ้น 2.5 เท่าเป็น 800 ครั้งต่อคนต่อปีใน 3 ปีข้างหน้า ควบคู่กับการลดการใช้เงินสดและเช็ค

 

ในส่วนการพัฒนาระบบการโอนเงินดิจิทัลในอนาคตนั้น ธปท.มีแนวคิดที่จะสร้างระบบการสั่งจ่ายเงินที่สามารถกำหนดเวลาโอนได้ เพื่อช่วยลดความเสี่ยงของลูกค้าที่ซื้อสินค้าผ่านระบบออนไลน์ โดยจะมีคำสั่งให้โอนเงินไปรอจ่าย แต่เงินจะยังไม่เข้าทันที และเมื่อลูกค้าได้รับสินค้าแล้วจึงกดปุ่มโอน เงินจึงจะเข้าบัญชีได้ แต่แนวทางนี้จะต้องใช้เวลาอีกระยะ และต้องรับฟังความคิดเห็นของผู้ที่เกี่ยวข้องอย่างรอบคอบเสียก่อน

 

#TheStructureNews

#พร้อมเพย์ #ธปท

อดีตวิศวกรโครงการ ระดับผู้จัดการ จบปริญญาตรีวิศวกรรมเครื่องกล จาก พระจอมเกล้าธนบุรี และ โท ด้าน Advanced Manufacturing Engineering จาก University of South Australia มีความสนใจในเรื่องประวัติศาสตร์ การเมือง และสวัสดิการสังคม

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    คุกกี้ที่มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้งานเว็บไซต์ได้อย่างเป็นปกติ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณ เพื่อให้เราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมและความสนใจของคุณ

บันทึกการตั้งค่า