
“เรากำลังถูกต่างชาติควบคุม” ‘ไปรษณีย์ไทย’ ถูกกีดกันไม่ให้แข่งขันในแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ เรียกร้องให้มีการกำกับดูแลผู้บริโภคในธุรกิจนี้
เมื่อวันที่ 22 มี.ค. 2567 นายดนันท์ สุภัทรพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด เปิดเผยถึงผลประกอบการในปี 2566 ซึ่งมีผลประกอบการพลิกกลับมาทำกำไร 78.54 ล้านบาท ในขณะที่ปี 2564 และ 2565 มีผลประกอบการขาดทุน 1,730 และ 3,018 ล้านบาทตามลำดับ
โดยในปีนี้ไปรษณีย์ไทยมีรายได้รวม 20,934.47 ล้านบาท เติบโตสูงขึ้น 7.40% โดยในปี 2565 มีรายได้รวม 19,546 ล้านบาท ซึ่งรายได้หลักมาจากธุรกิจขนส่งและโลจิสติกส์ที่มีสัดส่วนรายได้สูงสุด เพิ่มขึ้นจากปี 2565 ที่ 19.35% ซึ่งเป็นผลมาจากการให้บริการที่ครอบคลุมผู้ใช้บริการทุกกลุ่ม จุดให้บริการที่สะดวกง่ายต่อการเข้าถึง พัฒนาประสบการณ์ในการใช้บริการอย่างต่อเนื่อง มุ่งเน้นคุณภาพตลอดกระบวนการให้บริการ
อย่างไรก็ดี ภายหลังการแถลงผลประกอบการ นายดนันท์ได้กล่าวถึง “ความไม่ยุติธรรม” ที่ไปรษณีย์ไทยได้รับจากแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ กีดกันโอกาสในการให้บริการขนส่งและโลจิสติกส์ ซึ่งลูกค้าไปรษณีย์ไทยหลายคนเป็นผู้ขายสินค้าผ่านแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ และต้องการขนส่งสินค้าผ่านไปรษณีย์ไทย แต่ปัญหาคืออีคอมเมิร์ซแพลตฟอร์มไม่ยอม
“คนที่ควรเลือกขนส่ง คือ คนขาย หรือ คนซื้อ เพราะขนส่งจะทำหน้าที่บริการดูแลผู้ขายและผู้ซื้อ แต่ตอนนี้อีคอมเมิร์ซเป็นผู้กำหนดทั้งหมด” นายดนันท์กล่าว ก่อนจะกล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาไปรษณีย์ไทยให้บริการแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ 2 ราย แต่ที่ผ่านมาปริมาณการขนส่งของเจ้าหนึ่งลดหลายลงไปครึ่งหนึ่ง
ถึงแม้ว่าตนเองจะเข้าใจว่าผู้ประกอบการอีคอมเมิร์ซต้องการทำกำไรจากแพลตฟอร์มของตัวเอง แต่ผู้ซื้อและผู้ขายควรมีสิทธิเลือกบริการการขนส่งที่ตัวเองต้องการด้วยเช่นกัน
นายดนันท์ชี้ให้เห็นว่าในเวลานี้ ยังไม่มีใครเข้ามากำกับดูแล (Regulator) กำหนดกติกาการแข่งขันหรือให้บริการในธุรกิจอีคอมเมิร์ซ ทำให้อีคอมเมิร์ซสามารถบังคับผู้ค้าและผู้ซื้อให้ใช้ขนส่งตามที่กำหนด โดยเฉพาะบริษัทขนส่งที่เป็นของอีคอมเมิร์ซเอง
อีกทั้งแพลตฟอร์มยังเก็บส่วนต่างค่าส่งจากลูกค้า เพิ่มเติมจากค่าส่งที่ผู้ให้บริการขนส่งกำหนดไป รวมไปถึงการกำหนดเงื่อนไขบางอย่างที่เป็นไปได้ยากและไม่เป็นธรรมต่อผู้ให้บริการอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีปัญหาหลายอย่างที่เกิดขึ้นในการขนส่งซ้ำ ๆ เนื่องจากไม่มีผู้กำกับดูแลปัญหาตรงนี้ทำให้ไม่มีการกำหนดโทษ
นายดนันท์ยังย้ำว่า “แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซไม่มีไทยเลยทั้งหมด เรากำลังปล่อยให้ประเทศเราถูกควบคุมด้วยต่างชาติ” และยังระบุว่า ไปรษณีย์ไทยไม่ได้ต้องการสิทธิพิเศษแต่อย่างใด แต่ต้องการการแข่งขันที่เป็นธรรม จึงอยากให้มีผู้กำกับดูแลคุ้มครองผู้บริโภค กำหนดกติกาในการแข่งขันหรือให้บริการ