Newsยื่นสอบพรรคประชาชน ‘ไทยภักดี’ ชี้พรรคถิ่นกาขาวฯ อาจสิ้นสภาพพรรคการเมืองไปก่อนนี้แล้ว และการรับบริจาคของพรรคประชาชนอาจผิดระเบียบ กกต.

ยื่นสอบพรรคประชาชน ‘ไทยภักดี’ ชี้พรรคถิ่นกาขาวฯ อาจสิ้นสภาพพรรคการเมืองไปก่อนนี้แล้ว และการรับบริจาคของพรรคประชาชนอาจผิดระเบียบ กกต.

นายทศพล พรหมเกตุ เลขาธิการพรรคไทยภักดี ยื่นหนังสือต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ขอให้มีการตรวจสอบการมีสาขาพรรคถิ่นกาขาวชาววิไล ซึ่งในเวลาต่อมาถูกเปลี่ยนชื่อเป็นพรรคประชาชน และบัญชีเพื่อการบริจาคของพรรคประชาชน

นายทศพลกล่าวว่าจากการตรวจสอบข้อมูลจากฐานข้อมูลของ กกต. พบว่าพรรคถิ่นกาขาวทำวิไล มีสาขาพรรคเพียง 3 สาขา คือ ภาคกลาง 2 สาขา และภาคเหนือ 1 สาขา ซึ่งอาจสิ้นสภาพการเป็นพรรคการเมืองตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยพรรคการเมือง มาตรา 91 (3)

ที่บัญญัติว่าพรรคการเมืองย่อมสิ้นสภาพความเป็นพรรคการเมืองเมื่อภายหลังจากที่ดำเนินการครบตามมาตรา 33 (2) มีจำนวนสาขาพรรคการเมืองเหลือไม่ถึงภาคละ 1 สาขาเป็นระยะเวลาติดต่อกัน 1 ปี

จึงขอให้ กกต. ตรวจสอบว่าพรรคถิ่นการขาวชาววิไลมีจำนวนสาขาในแต่ละปีเท่าไหร่ในแต่ละภาค ซึ่งถ้าหากว่ามีสาขาไม่ครบ 4 ภาคในระยะเวลา 1 ปี กกต. จะต้องดำเนินการสั่งให้พรรคการเมืองนั้นสิ้นสภาพ และการที่ข้อมูลในปัจจุบันนั้นมีสาขาครบ 4 ภาคไม่ใช่ประเด็น แต่อยากให้กกต.ตรวจสอบย้อนหลังกลับไปเป็นรายปีเพื่อให้ได้ข้อมูลที่ประจักษ์ชัด

สำหรับกรณีบัญชีเพื่อการบริจาคของพรรคประชาชนนั้น นายทศพลกล่าวว่า พรรคถิ่นกาขาวชาววิไล ที่ได้มีการประชุมเปลี่ยนแปลงชื่อพรรค ตราสัญลักษณ์ และคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่เป็นพรรคประชาชน เมื่อวันที่ 9 ส.ค. ที่ผ่านมานั้น ได้มีการเชิญชวนให้ประชาชนร่วมบริจาคเงินให้กับพรรคด้วย

ซึ่งการดำเนินการใดๆเกี่ยวกับการรับบริจาคของพรรคการเมืองต้องเป็นไปตามข้อ 42 ของระเบียบ กกต.ว่าด้วยพรรคการเมือง 2563 ที่ให้อำนาจหัวหน้าพรรคและเหรัญญิก เป็นผู้เปิดบัญชีธนาคารพาณิชย์ โดยมีหนังสือรับรองรายชื่อคณะกรรมการบริหารพรรคจาก กกต. เป็นหลักฐานสำคัญในการเปิดบัญชีด้วย ซึ่งการรับรองจาก กกต. มีระยะเวลาในการดำเนินการไม่ใช่ว่าประชุมวันนี้แล้วมีหนังสือรับรองไปเลย

จึงขอให้ กกต. ตรวจสอบว่า ได้มีการออกหนังสือรับรองดังกล่าวให้พรรคประชาชนแล้วหรือไม่ และการขอรับบริจาคเงินให้แก่พรรคประชาชน เป็นไปตามระเบียบของ กกต. ว่าด้วยพรรคการเมืองข้อ 42 หรือไม่ และที่สำคัญอาจจะเข้าข่ายหลอกลวงประชาชนให้เข้าใจผิดหรือไม่ ซึ่งนี่เป็นหน้าที่ของ กกต. ที่จะต้องมีการตรวจสอบ


ด้านเพจวันนี้พรรคส้มโกหกอะไรเปิดเผยภาพสลิปบัญชีการบริจาคเงินให้พรรคประชาชน ซึ่งระบุบัญชีผู้รับเป็น “บ. เพย์ โซลูชั่น จก. บจก. เพย์ โซลูชั่น” พร้อมระบุข้อความว่า

“1. พรรคประชาชน อยู่ระหว่างทำธุรการเอกสาร ขอเปิดบัญชีธนาคารเป็นชื่อพรรค ต้องมีหนังสือรับรองจาก กกต. ด้วยระยะเวลาไม่กี่วันคาดว่ายังไม่สำเร็จ
.
2. การบริจาคของพรรคประชาชนที่ผ่านมา จึงไม่ได้โอนเข้า บัญชีพรรคโดยตรง โอนผ่านตัวกลาง บ. เพย์ โซลูชั่น ที่ให้บริการทางด้านการเงิน
.
3. การใช้บริษัทกลางมาช่วย อาจต้องเสียค่าบริการเช่น บริจาคเงิน 100 บาท หักค่าบริการ 10 สตางค์ เหลือเข้าบัญชีพรรค 99.90 บาท เรื่องนี้พรรคแจ้งให้ประชาชนรู้ก่อนบริจาคหรือไม่

คำถาม การที่ยังไม่มีบัญชีพรรคการเมือง แต่เปิดรับบริจาคโดยผ่านตัวกลาง และ อาจต้องถูกหักค่าบริการ ผิดกฎหมายพรรคการเมืองหรือไม่คะ”

 

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    คุกกี้ที่มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้งานเว็บไซต์ได้อย่างเป็นปกติ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณ เพื่อให้เราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมและความสนใจของคุณ

บันทึกการตั้งค่า