Newsดูแลคนในประเทศ ให้ดีก่อนที่จะไปดูแลคนอื่น ‘เครือข่ายภาคประชาชน’ ร้อง ‘ก.ต่างประเทศ’ แก้ปัญหาต่างด้าว ชี้รัฐบาลไทยไม่ควรให้สิทธิ์ต่างด้าวเกินความจำเป็น

ดูแลคนในประเทศ ให้ดีก่อนที่จะไปดูแลคนอื่น ‘เครือข่ายภาคประชาชน’ ร้อง ‘ก.ต่างประเทศ’ แก้ปัญหาต่างด้าว ชี้รัฐบาลไทยไม่ควรให้สิทธิ์ต่างด้าวเกินความจำเป็น

เครือข่ายภาคประชาชน” เดินทางไปยังระทรวงต่างประเทศ ยื่นคำขาดแก้ปัญหาต่างด้าว ห้ามตั้งท้องในไทยเด็ดขาด ตรวจจับส่งกลับต้นทางทันที หากทำผิด กม.ต้องรับโทษเท่าคนไทย และห้ามกลับมาอีกตลอดชีวิต รื้อกฎต่างด้าว รับโทษเท่าคนไทย ห้ามตั้งท้องเด็ดขาด ตรวจจับส่งกลับทันที

 

ประเด็นแรงงานต่างด้าวยังคงเป็นดราม่าอย่างต่อเนื่อง และยังมีการขยี้ใจคนไทยซ้ำ เมื่อ น.ส.ธิษะณา ชุณหะวัณ สส.กทม.พรรคประชาชน อภิปรายนโยบายรัฐบาล ด้วยการเรียกร้องให้รัฐบาลไทย ดูแลสิทธิด้านต่างๆให้แก่ชาวเมียนมา 

 

และขอให้รัฐบาลเปิดโอกาสด้านการศึกษาให้แก่เยาวชนชาวเมียนมาที่เข้ามาอาศัยในประเทศไทย เนื่องจากจะเป็นการช่วยลดปัญหาการค้ามนุษย์ และจะมีส่วนช่วยในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ แม้จะมีการใช้งบประมาณเพิ่ม แต่ก็จะมีความคุ้มค่ามากกว่า

 

จนถูกวิจารณ์อย่างหนัก และถูกชาวเน็ตนำไปเปรียบเทียบกับอุทกภัยในภาคเหนือ ที่คนไทยกำลังได้รับความเดือดร้อน แต่ สส.พรรคประชาชนกลับเป็นห่วงคนของประเทศเพื่อนบ้าน มากกว่าคนในประเทศตัวเอง

 

เมื่อวันที่ 17 ก.ย. 2567 กลุ่มประชาภักดิ์พิทักษ์สถาบัน กลุ่มอาชีวะราชภักดี และตัวแทนกลุ่ม AWCC ทนไม่ไหวแล้ว จับมือกันออกมาเคลื่อนไหว บุกไปที่กระทรวงการต่างประเทศ เพื่อยื่นหนังสือถึงรัฐมนตรี ห้ามไม่ให้คนต่างด้าวตั้งท้องหรือคลอดบุตรในไทย รวมถึงข้อกำหนดต่างๆ หากเดินทางเข้ามาทำงานในประเทศไทย เพื่อไม่ให้คนไทยเสียเปรียบคนต่างด้าว

 

ด้านเต้ อาชีวะ-อัครวุธ ไกรศรีสมบัติ กล่าวว่า ดูแลคนในประเทศให้ดีก่อน ที่จะไปดูแลคนอื่น มีเด็กไทยตั้งมากมายยังขาดโอกาสทั้งการศึกษา และการเข้าถึงระบบสาธารณสุข 

 

ขณะเดียวกันก็ฝากไปยัง สส.แก้วตา (น.ส.ธิษะณา ชุณหะวัณ สส.กทม.พรรคประชาชน) และ สส.กัณวีร์ (นายกัณวีร์ สืบแสง สส. แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเป็นธรรม) ว่าถ้าอยากช่วยคนพม่ามาก ก็โอนสัญชาติไปเป็น สส.พม่า ให้รู้แล้วรู้รอดกันไป

 

ตนเองไม่ได้กีดกันต่างด้าวเข้าประเทศ สิทธิที่เขาควรได้ ตนไม่กีดกัน แต่สิ่งที่ตนข้องใจคือประชาชนคนไทย หรือเด็กไทยที่ยังอยู่บนดอย ยังด้อยการศึกษาอยู่มาก เรายังดูแลคนของเราได้ไม่ดีพอ เหตุในเราไม่เอางบประมาณดูแลคนต่างด้าวเหล่านี้ มาดูแลคนในประเทศเราให้ดีก่อน

 

ตนเองขึ้นดอยไปช่วยเหลือประชาชนบนดอยบ่อย ตนเห็นเด็ก ๆ บางคนไม่มีรองเท้าใส่ ไม่มีชุดนักเรียน บางมื้อไม่มีอาหารรับประทาน โรงเรียนขนาดเล็ก ไม่มีงบประมาณจากรัฐไปช่วย แล้วเหตุใดจึงไปห่วงกับเด็กต่างด้าว ตนเองเข้าใจในสิทธิของคนต่างด้าว แล้วสิทธิของคนของเราล่ะ? เราต้องทำให้คนของเราดีก่อนที่จะทำให้คนของประเทศเพื่อนบ้านดูดี บ้านเราดูดีหรือยัง?

 

สำหรับเงื่อนไข 8 ข้อที่ทางกลุ่ม ซึ่งเป็นตัวแทนหมู่บ้านเรียกร้องไปยังกระทรวงการต่างประเทศนั้นมีอะไรบ้าง

 

1.ให้ดำเนินการยกเลิกการถอนข้อสงวน ข้อ 22 ของอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก เนื่องจากความไม่พร้อมของประเทศไทย

 

2.ประสานไปยังนายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีกระทรวง พม. ให้ทำความเข้าใจกับแรงงานต่างด้าวเสียใหม่ โดยหน้าที่การรับผิดชอบค่าใช้จ่ายด้านการศึกษา และสาธารณสุข เป็นของพ่อแม่ เพราะแรงงานต่างด้าวมีงานประจำอยู่แล้ว ดังนั้นรัฐบาลไทยไม่ควรให้สิทธิ์ต่างด้าวเกินความจำเป็น

 

  1. เพื่อทบทวนการให้สัญชาติบุคคลต่างด้าว

 

  1. ให้คนต่างด้าวทำงานในประเทศไทยได้ครั้งละ 90 วัน จากนั้นให้ ตม.ส่งตัวกลับประเทศต้นทาง และเว้นการกลับเข้าไทย 30 วัน โดยการกลับมานั้นต้องขอใบอนุญาตทำงาน และวีซ่าทำงานใหม่ทุกครั้ง

 

5.ออก พรบ.ควบคุมการกำเนิดบุตรของต่างด้าว 3 สัญชาติ โดยห้ามตั้งท้องและคลอดบุตรในไทย หากรู้ตัวว่าท้อง ต้องกลับประเทศต้นทาง หลังจากคลอดบุตรแล้ว ให้สิทธิ์กลับเข้ามาทำงานใหม่ได้ โดยไม่ต้องขอใบอนุญาตทำงาน แต่คงสงวนสิทธิ์ตามกรอบ 90 วันเช่นเดิม

 

  1. พิจารณาต่างด้าว 3 สัญชาติ หากเข้ามาทำงานในประเทศไทย แล้วทำผิดกฎหมาย จะต้องรับโทษตามคำสั่งศาลมีโทษเทียบเท่าคนไทย และเมื่อพ้นโทษ ให้ประสาน ตม.นำตัวส่งกลับประเทศต้นทางทันที และห้ามเข้าประเทศไทยอีกเด็ดขาด

 

  1. พิจารณาต่างด้าว 3 สัญชาติที่ลี้ภัยทางการเมืองทุกรูปแบบ อยู่ในศูนย์กักกัน โดยรัฐบาลไทยรับผิดชอบจัดหาอาหาร เครื่องนุ่งห่ม ที่พักให้

 

  1. พิจารณาต่างด้าว 3 สัญชาติ ที่ลี้ภัยทางการเมืองทุกรูปแบบ จะต้องไม่กระทำการให้ฝ่ายหญิงเกิดการตั้งครรภ์โดยเด็ดขาด หากตรวจพบการตั้งครรภ์ ให้ประสาน ตม.ส่งกลับประเทศต้นทางทันที

 

ทั้งนี้นางสาวอภิรดี อนุคระหานนท์ ผู้ช่วยปลัดกระทรวงการต่างประเทศ เป็นตัวแทนรับเรื่อง แจ้งว่าไม่เกินหนึ่งถึงสองวัน หนังสือฉบับนี้ก็จะส่งต่อถึงรัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศ และหน่วยงาน เพื่อแก้ไขปัญหา โดยจะนำข้อมูลไปดำเนินการอย่างไร ทางกลุ่มจะติดตามผลและจะแจ้งให้ทราบต่อไป




เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    คุกกี้ที่มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้งานเว็บไซต์ได้อย่างเป็นปกติ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณ เพื่อให้เราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมและความสนใจของคุณ

บันทึกการตั้งค่า