เตือนผู้ส่งออกไทย เตรียมรับมือ สหรัฐฯ และอียู เตรียมประกาศใช้ภาษีคาร์บอน นำร่องปี 2567
กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศเผย สหรัฐฯ และอียู เตรียมออกมาตรการจัดเก็บภาษีการปล่อยคาร์บอนปริมาณสูงในปี 2567 สหรัฐจะเริ่มบังคับใช้กับสินค้า อาทิ เชื้อเพลิงฟอสซิล ปิโตรเคมี ปุ๋ย ไฮโดรเจน อะลูมิเนียม เอทานอล และอียูจะนำร่องเก็บภาษีกับสินค้า 8 ชนิด คาดเริ่มบังคับใช้ปี 2570
นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า จากการติดตามความเคลื่อนไหวของประเทศคู่ค้าของไทย พบว่าสหรัฐฯ และสหภาพยุโรป (อียู) อยู่ระหว่างการยกร่างกฎหมายกำหนดมาตรการจัดเก็บภาษีการปล่อยคาร์บอน หรือก๊าซเรือนกระจก กับสินค้าที่มีกระบวนการผลิตที่ส่งผลให้เกิดการปล่อยคาร์บอนในปริมาณสูง
โดยร่างกฎหมาย Clean Competition Act (CCA) ตั้งเป้าเก็บภาษีคาร์บอนกับสินค้าที่กระบวนการผลิตมีการปล่อยคาร์บอนปริมาณสูง โดยเสนอให้ผู้ผลิตของสหรัฐฯ และผู้นำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ จะต้องเสียภาษีคาร์บอน 55 เหรียญสหรัฐต่อการปล่อยคาร์บอน 1 ตัน หากกระบวนการผลิตสินค้ามีการปล่อยคาร์บอนเกินกว่าเกณฑ์ที่กำหนด
โดยจะบังคับใช้กับสินค้า อาทิ เชื้อเพลิงฟอสซิล ผลิตภัณฑ์จากการกลั่นปิโตรเลียม ปิโตรเคมี ปุ๋ย ไฮโดรเจน กรดอะดิพิก ซีเมนต์ เหล็กและเหล็กกล้า อะลูมิเนียม กระจก เยื่อกระดาษและกระดาษ และเอทานอล ซึ่งจะเริ่มบังคับใช้ในปี 2567 และภายในปี 2569 จะขยายให้ครอบคลุมสินค้าสำเร็จรูปที่มีสินค้าข้างต้นเป็นส่วนประกอบในการผลิต ทั้งนี้ ร่างกฎหมายดังกล่าวยังอยู่ในการพิจารณาของคณะกรรมาธิการวุฒิสภาสหรัฐฯ
สำหรับสหภาพยุโรปยังอยู่ระหว่างการออกมาตรการปรับคาร์บอนก่อนเข้าพรมแดน (Carbon Border Adjustment Mechanism: CBAM) ซึ่งจะนำร่องเก็บภาษีกับสินค้า 8 ชนิดที่นำเข้ามาจำหน่ายในสหภาพยุโรป ได้แก่ เหล็กและเหล็กกล้า อะลูมิเนียม ซีเมนต์ ปุ๋ย ไฟฟ้า ไฮโดรเจน เคมีภัณฑ์ และพลาสติก ซึ่งถือเป็นส่วนประกอบสำคัญในกระบวนการผลิตสินค้าต่าง ๆ โดยคาดว่าจะเริ่มบังคับใช้อย่างเต็มรูปแบบในปี 2570
ทั้งนี้ เมื่อเปรียบเทียบร่างกฎหมาย CCA ของสหรัฐฯ กับมาตรการ CBAM ของสหภาพยุโรป พบว่าทั้งสองมาตรการมีเป้าหมายเดียวกันในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก แต่มีส่วนที่แตกต่างกัน อาทิ มาตรการ CBAM จะใช้บังคับกับสินค้านำเข้าเท่านั้น และจะเก็บภาษีคาร์บอนที่เกิดขึ้นทั้งหมด ส่วนร่างกฎหมาย CCA จะใช้บังคับกับสินค้าที่ผลิตภายในประเทศและสินค้านำเข้า และจะเก็บภาษีคาร์บอนเฉพาะส่วนที่เกินกว่ากำหนดเท่านั้น
“ปัจจุบันประเทศคู่ค้าสำคัญของไทยเตรียมบังคับใช้มาตรการเก็บภาษีคาร์บอนเพิ่มขึ้น โดยจะส่งผลต่อการส่งออกสินค้าของไทยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ดังนั้น ผู้ผลิตสินค้าไทยควรเตรียมพร้อมรับมือกับมาตรการดังกล่าว โดยเร่งปรับกระบวนการผลิตให้ลดการปล่อยคาร์บอนตลอดห่วงโซ่อุปทาน และจัดเตรียมข้อมูลเกี่ยวกับการปล่อยคาร์บอนเพื่อเป็นหลักฐานประกอบการส่งออก
นอกจากนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่าง ๆ จะต้องเร่งพิจารณายกระดับระบบกลไกราคาคาร์บอนที่มีอยู่ในปัจจุบันให้เป็นที่ยอมรับตามมาตรฐานสากล เพื่อลดภาระการจ่ายภาษี หรือซื้อใบรับรองการปล่อยคาร์บอนที่ผู้ผลิตไทยต้องจ่ายให้กับต่างประเทศด้วย”
ปัญหาความเหลื่อมล้ำในอังกฤษ ประชาชน 1 ล้านคนยกเลิกบริการบอร์ดแบน จากค่าบริการที่แพงขึ้น เป็นอุปสรรคต่อการเข้าถึงเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อสุขภาพ
‘ธนกร’ แจงผลงานปฏิรูปกฎหมาย เพื่อต่อสู้กับยาเสพติดของรัฐบาลช่วงที่ผ่านมา ยึดทรัพย์เพิ่ม 8 เท่า คนแจ้งเบาะแสเพิ่ม 5 เท่าจากปีก่อน
ใส่ชุดไทยเที่ยววัดอรุณ ยูทูบเบอร์สาวเวียดนามทำ VLOG แนะนำ ที่กิน ที่เที่ยว ในไทย
ศิราวุธ ภุมมะกสิกร
อดีตวิศวกรโครงการ ระดับผู้จัดการ จบปริญญาตรีวิศวกรรมเครื่องกล จาก พระจอมเกล้าธนบุรี และ โท ด้าน Advanced Manufacturing Engineering จาก University of South Australia มีความสนใจในเรื่องประวัติศาสตร์ การเมือง และสวัสดิการสังคม