
กองทัพไทยระดมกำลัง ฟื้นฟูบ้านเมืองหลังน้ำท่วม ช่วยเหลือประชาชนในภาคเหนือ-ใต้-อีสาน
แม้ว่าสถานการณ์น้ำท่วมในภาคเหนือจะเริ่มคลี่คลายลงแล้ว แต่ด้วยอิทธิพลของพายุซูริก ที่ทำให้เกิดฝนตกอย่างหนัก จนทำให้เกิดภัยพิบัติน้ำท่วมในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้ ทำให้กองทัพบก, กองทัพเรือ, กองทัพอากาศ และกองทัพไทย ส่งกำลังให้ความช่วยเหลือประชาชนดังต่อไปนี้
— ภาคเหนือ —
แม้ระดับน้ำจะลดลงไปแล้ว แต่เศษซากขยะ และดินโคลนที่ไหลมากับกระแสน้ำ และจากเหตุการณ์ดินถล่มอันเป็นผลสืบเนื่องจากสถานการณ์น้ำท่วม ยังคงตกค้างอยู่นพื้นที่ชุมชน และอาคารบ้านเรือน
ทุกเหล่าทัพส่งกำลังทหาร เข้าทำการฟื้นฟูพื้นที่ ขนย้ายดินและเศษขยะ ทำความสะอาดบ้านเรือนประชาชน โรงเรียน และถนนหนทาง โดยมีการใช้รถเกลี่ย, รถตักบรรทุก, รถยนต์บรรทุก 10 ตัน แบบเทท้าย และรถราดน้ำ เข้าทำความสะอาด และกำจัดดินโคลนเพื่อเปิดเส้นทางการจราจรด้วย
แต่ทั้งนี้ ระบบประปาในเชียงรายได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์นี้จนใช้การไม่ได้ ทำให้ประชาชนไม่มีน้ำใช้ กองทัพบกจึงเร่งติดตั้งระบบประปาสนามเพื่อการจ่ายน้ำให้ประชาชนได้มีน้ำใช้ อีกทั้งยังส่งกำลังพลให้ความช่วยเหลือการประปาในการซ่อมแซมสถานีระบบการส่งน้ำประปา ให้สามารถกลับมาใช้งานได้ดังเดิม
สำหรับการลำเลียงอาหารและเครื่องดื่มเพื่อการบรรเทาความทุกข์ยากของประชาชน ทุกเหล่าทัพยังคงดำเนินการอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังมีการตั้งแนวกั้นน้ำ เพื่อการป้องกันน้ำไหลย้อนกลับสู่บ้านเรือนประชาชน และเพื่อการเตรียมการรับมือกับพายุซูริกที่กำลังเข้ามาอีกด้วย
อย่างไรก็ดี ในข้อเท็จจริงแล้ว ผู้ประสบภัยจากสถานการณ์น้ำท่วมในครั้งนี้ไม่ได้มีแต่ประชาชน เนื่องจากกำลังพลจากค่ายเม็งรายมหาราชในจังหวัดเชียงรายเองก็เป็นผู้ประสบภัยน้ำท่วมด้วยเช่นกัน เนื่องจากบ้านพักของกำลังพลภายในค่ายก็ถูกน้ำท่วมด้วยเช่นกัน แต่ก็เป็นทหารจากค่ายเม็งรายมหาราชเช่นกัน ที่ออกปฏิบัติการช่วยเหลือประชาชนในจังหวัดเชียงราย
— ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ท่ามกลางสถานการณ์น้ำท่วมที่ยังไม่ลดระดับลง ทุกเหล่าทัพดำเนินการลำเลียงวัตถุปัจจัย อาหาร และน้ำดื่ม เพื่อการให้ความช่วยเหลือประชาชนอย่างต่อเนื่อง มีการจัดตั้งโรงครัวพระราชทาน เพื่อประกอบอาหารบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ผู้ประสบภัยในภาคอีสาน
นอกจากนี้ ยังมีการเตรียมการป้องกันน้ำท่วมเชิงรุก เพราะลดระดับความเสียหายที่จะเกิดขึ้นจากพายุซูริกลงให้ได้มากที่สุด
— ภาคใต้ —
สถานการณ์น้ำท่วมในภาคใต้เริ่มคลี่คลายลงแล้วเช่นกัน ซึ่งการปฎิบัติงานให้ความช่วยเหลือประชาชนของทุกเหล่าทัพนั้น ไม่ได้แตกต่างไปจากในภาคอื่น ยกเว้นในพื้นที่ที่เป็นเกาะกลางทะเล ที่มีเพียงกองทัพเรือเท่านั้นที่มีเรือรบ ที่มีขีดความสามารถในการฝ่าคลื่นลม ลำเลียงอาหารและน้ำดื่มขึ้นเกาะ ไปให้ความช่วยเหลือประชาชนได้