อาจพบผู้ป่วยฝีดาษวานร ชนิด clade 1b รายแรกในไทย ‘สาธารณสุข’ แจงการพบผู้ “ต้องสงสัย” เป็นฝีดาษวานร clade 1b เข้าควบคุมโรค เฝ้าติดตามผู้ใกล้ชิดกับผู้ป่วยได้หมดแล้ว

นพ.ธงชัย กีรติหัตถยากร อธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดแถลงข่าวว่าพบผู้ป่วยที่ “ต้องสงสัย” ว่าจะเป็นฝีดาษวานร สายพันธุ์ clade 1b รายแรกในไทย เดินทางจากทวีปแอฟริกา โดยผู้ป่วยรายนี้เป็นชาวยุโรป เดินทางมาจากประเทศต้องสงสัยในทวีปแอฟริกา เดินทางเข้าสู่ประเทศไทยเมื่อวันที่ 14 สิงหาคม เวลา 18.00 น.

และในวันต่อมา (15 ส.ค.) ผู้ป่วยเริ่มมีอาการตุ่มขึ้น จึงเดินทางเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล แพทย์จึงทำการซักประวัติว่าป่วยเป็นโรคฝีดาษวานรสายพันธุ์ clade 1b หรือไม่ แต่ผลการตรวจสอบในห้องปฏิบัติการทางการแพทย์ยังไม่มีความชัดเจน

อย่างไรก็ดี นพ.ธงชัย ยืนยันว่าผู้ป่วยรายนี้นั้น ป่วยเป็นโรคฝีดาษวานรแน่ แต่ยังไม่สามารถยืนยันได้อย่างชัดเจนว่าเป็นฝีดาษวานรสายพันธุ์ clade 1b หรือไม่

อีกทั้งกรมควบคุมโรคสามารถติดตามผู้ที่โดยสารเข้าประเทศไทยทางเครื่องบิน และนั่งใกล้กับผู้ป่วย รวมทั้งผู้ที่ใกล้ชิดกับผู้ป่วยได้แล้ว และอยู่ในระหว่างการติดตามอาการ 21 วัน ส่วนตัวผู้ป่วยในเวลานี้อาการถือว่าอยู่ในระดับที่ดี และยังเข้ารับการรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล

ทั้งนี้ เพื่อมิให้เกิดความตื่นตระหนก และสับสน ซึ่งกรมควบคุมโรค และกระทรวงสาธารณสุขให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มาก จึงจัดแถลงข่าวเพื่อให้เกิดความชัดเจนของสถานการณ์

สำหรับโรคฝีดาษวานรสายพันธุ์ clade 1b นั้น องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ออกประกาศแจ้งเตือนเป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระดับโลก ครั้งที่ 2 ในรอบ 2 ปี ในช่วงเดือนสิงหาคม จากการแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วของโรคนี้ และกระทรวงสาธารณสุขของไทย ได้ออกมาตรการเฝ้าระวังและป้องกันมาตลอด นับตั้งแต่ที่ WHO ได้มีประกาศแจ้งเตือน

ฝีดาษลิงเป็นโรคติดเชื้อจากไวรัสที่แพร่สู่คนผ่านทางสัตว์ที่ติดเชื้อ และยังสามารถแพร่จากคนสู่คนได้โดยการสัมผัสการสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยที่มีตุ่มหนองหรือสารคัดหลั่งที่มีเชื้อไวรัส หรือการมีเพศสัมพันธ์กับผู้ป่วยที่มีเชื้อไวรัส สำหรับการป้องกัน แนะนำให้หลีกเลี่ยงการสัมผัสคลุกคลีใกล้ชิดกับผู้ป่วย ล้างมือบ่อย ๆ ไม่ใช้สิ่งของเครื่องใช้ร่วมกับผู้อื่น