
วิวาทะ ศุภณัฐ มีนชัยนันท์ สส. กทม. พรรคประชาชน 27 พ.ย. 2567 VS รัดเกล้า สุวรรณคีรี รองโฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ 29 พ.ย. 2567
ภายหลังจากที่ 5 สส. พรรคประชาชนถูกเพจวันนี้พรรคส้มโกหกอะไร ตั้งคำถาม เกี่ยวกับการเที่ยวชมหมีแพนด้าที่เมืองเฉิงตู ประเทศจีน พร้อมด้วยนักศึกษาในหลักสูตรประกาศนียบัตรชั้นสูง การเมืองการปกครองในระบอบประชาธิปไตย (ปปร.) ของสถาบันพระปกเกล้า ว่าไปเที่ยวด้วยภาษีของประชาชนหรือไม่นั้น
ทำให้แบงค์ – ศุภณัฐ มีนชัยนันท์ สส. กทม. พรรคประชาชน โพสต์ X ตอบโต้ โดยในตอนหนึ่งเขาระบุว่า ให้ไปตั้งคำถามเกี่ยวกับการเรียนในหลักสูตรการป้องกันราชอาณาจักร สำหรับผู้บริหารแห่งอนาคต – วปอ.บอ. หรือมินิ วปอ. ของ น.ส. แพทองธาร ชินวัตร ซึ่งในเวลานั้นยังมิได้เป็นนายกรัฐมนตรี แต่เป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทยว่า
“ถ้าจะทวง ภาษี ต้องไปดู “คอร์ส mini วปอ.” ที่ “คุณอุ๊งอิ๊ง” ซึ่ง ณ เวลาที่สมัคร และเข้าไปเรียน สถานะคือ “คนธรรมดา” เป็นเพียงหัวหน้าพรรค ไม่ใช่ สส. – ไม่ใช่รมต. – ไม่ใช่นายก – ไม่ใช่ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง
เพจนี้ เคยพูดซักแอะไหมครับว่า
- ใช้สิทธิ อะไรในการถูกคัดเลือกเข้าไปเรียน?
- ได้ “จ่ายเงินค่าหลักสูตรหรือไม่” เพราะที่กองทัพให้ข้อมูลมา คือ ค่าใช้จ่ายหลักสูตรนี้ “เรียนฟรี” และได้รับการสนับสนุนจากกองบัญชาการกองทัพไทย” แปลว่าใช้ ภาษีกู แบบเต็มๆ
ไม่พอ แก๊งค์เพื่อนๆของ “คุณอุ๊งอิ๊ง” ก็เข้าไปเรียนกันเต็มๆ ทั้งที่ profile ก็ไม่มีอะไรโดดเด่นเป็นพิเศษ หรือดำรงตำแหน่งทางการเมือง
บางคนแค่เป็นลูกหลานอดีตข้าราชการ หรือ อดีตรัฐมนตรีเท่านั้น ตัวเองไม่ได้เป็นผู้นำองค์กรอะไรทั้งนั้น”
—
ทั้งนี้ ตามประกาศของ วปอ. ผู้ที่ลงเรียนในหลักสูตร วปอ.บอ. หรือ มินิ วปอ. ที่เป็นกลุ่มนักการเมือง นักธุรกิจ ภาคเอกชน และบุคคลทั่วไปนั้น จะต้องชำระค่าใช้จ่ายประมาณ 130,000 บาท ต่อคน
ในขณะที่กลุ่มที่จะได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากกองบัญชาการกองทัพไทยนั้น จะต้องเป็นข้าราชการ, พนักงานรัฐวิสาหกิจ พนักงานในหน่วยงานของรัฐ และข้าราชการการเมือง
ซึ่งนี่ทำให้ เนเน่ – รัดเกล้า สุวรรณคีรี รองโฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ ในฐานะนักศึกษาหลักสูตร วปอ.บอ. รุ่นเดียวกับ น.ส. แพทองธาร ได้ออกมาตอบโต้ศุภณัฐ โดยอธิบายว่า ทั้งหลักสูตร ปปร. และ วปอ. นั้นต่างก็ตกเป็นเป้านิ่งจากอคติทางการเมืองมาตลอด
เนื่องจากว่าที่ผ่านมาประชาชนรู้สึกเจ็บปวดจากการแสวงหาคอนเน็กชั่นเพื่อเอื้อประโยชน์ให้แก่พวกพ้อง และเพื่อส่วนตน ซึ่งนักการเมืองรุ่นใหม่ทุกคน และทุกพรรค รวมช่วยกันแก้ไขอคตินี้ด้วยการประพฤติดี ใช้คอนเนคชั่นและเครือข่ายที่มีเพื่อส่งเสริมบรรยากาศการทำงานร่วมกัน สร้างการเมืองสร้างสรรค์ สร้างประโยชน์ให้กับประเทศและประชาชน
“สิ่งหนึ่งที่นักการเมืองรุ่นใหม่ไม่ควรทำต่อความระแวงของประชาชน คือการ ขว้างงูไม่พ้นคอ ทำให้โรคระแวงมันแย่ลงด้วยการเอาอคติทางการเมืองของตนเองมายัดเยียด ป้ายสีใส่กลุ่มการเมืองฝั่งตรงข้าม มุ่งหวังให้ประชาชนหันไปรุมคนอื่นแทนนะคะ” นางรัดเกล้าระบุ
อีกทั้งยังตอบคำถามนายศุภณัฐที่ตั้งคำถามว่า “คนที่มาเรียนนั้นได้ จ่ายเงินค่าหลักสูตรหรือไม่ เพราะที่กองทัพให้ข้อมูลมาคือค่าใช้จ่ายหลักสูตรนี้เรียนฟรี และได้รับการสนับสนุนจากกองบัญชาการกองทัพไทย แปลว่าใช้ ภาษีกู แบบเต็มๆ” ว่า
“อันนี้ เกรงว่าแหล่งข่าวในกองทัพของ สส.แบงค์ คงจะพูดไม่ครบนะคะ อันนี้ ถ้าไม่ทราบจริงๆ ก็ไม่ว่ากัน แต่ขอเพิ่มเติมข้อมูลเพื่อให้เข้าใจให้ตรงกันนะคะ ว่าผู้เรียนกลุ่มเอกชน และตัวแทนจากกลุ่มการเมืองต้องจ่ายเงินเอง 130,000 บาทเพื่อใช้ในการดูงานในประเทศและต่างประเทศค่ะ
(ที่ว่าเรียนฟรีนี้ สำหรับบุคลากรของรัฐ เช่น ข้าราชการพลเรือน ทหาร และตำรวจ ที่ทางหน่วยงานส่งตัวแทนมาเรียนเท่านั้นค่ะ) …ฉะนั้นขอย้ำนะคะว่า นอกเหนือจากที่เราไม่ได้เบียดเบียนภาษีประชาชนแล้ว เราได้ตัดสินใจใช้เงินส่วนตัวลงทุนเพื่อรับความรู้ผ่านหลักสูตรนี้ค่ะ
.
อ่อ… และที่ถามว่า “กล้าเอารูปมาโพสต์” ไหม … ในคอมเมนท์ เนเน่ขอเอารูปตอน วปอ.บอ. ไปทำ CSR ด้วยเงินส่วนตัวที่พวกเราระดมกัน นำไปช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วมที่สุโขทัย มาให้ดูเป็นตัวอย่างให้ดูนะคะว่าเราก็รวมตัวกัน “ก่อการดี” ไม่ต่างอะไรกับ คณะนักศึกษา ปปร. ของ สส.แบงค์ ค่ะ มาช่วยกันคลายโรคระแวงการสร้างคอนเนคชั่นในสังคมไทยด้วยการเมืองสร้างสรรค์กันดีกว่านะคะ”