
อภิสิทธิ์ชนยิ่งใหญ่ที่ผู้คนมองข้ามไป คือ นักเรียนและนักศึกษา
อภิสิทธิ์ชน ย่อมหมายถึง กลุ่มคนที่มีสิทธิพิเศษมากกว่ากลุ่มอื่น ๆ และสิทธิพิเศษก็เป็นสิทธิพิเศษที่กลุ่มอื่น ๆ ไม่สามารถไขว่หาได้ง่ายนัก ดังนั้น อภิสิทธิ์ชน ตั้งแต่ช่วงยุคโบราณถึงยุคปัจจุบันจึงมีอยู่น้อยนิด และสิทธิพิเศษก็มักหมายถึงความมั่งคั่งหรืออิทธิพลอำนาจที่มีอยู่ในสังคมมนุษย์
แต่อภิสิทธิ์ชน ไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็นกลุ่มคนที่มีความมั่งคั่งหรืออิทธิพลอำนาจแต่เพียงอย่างเดียว เหมือนที่คนมักเข้าใจกัน ที่จริงแล้วคนบางกลุ่มก็สามารถเป็นอภิสิทธิ์ชนได้ขึ้นอยู่กับสถานภาพและบทบาทของตนที่มีอยู่ในสังคมและการนำสถานภาพบทบาทในการแสวงหาประโยชน์เข้าตัว
ในจุดนี้ต่อให้จะมีสิทธิ์จริงและไม่ได้ด้อยนักแต่ก็มองว่าตนไม่มีสิทธิ์เทียบเท่ากับผู้อื่น ก็มักจะเรียกกลุ่มตนว่าเป็นผู้ด้อยโอกาสหรือกลุ่มชายขอบซึ่งก็เป็นอภิสิทธิ์ชนอยู่เช่นกันในเรื่องของอำนาจของการเรียกร้องสิทธิ์ที่ทรงพลังกว่าอื่น ๆ เพราะอ้างว่าตนมีสิทธิ์ที่ด้อยกว่า รวมทั้งการใช้สถานภาพบทบาทของผู้ด้อยโอกาสในการแสวงหาโอกาสเข้าหาตนจนอาจมีโอกาสมากกว่าคนปกติเสียด้วยซ้ำ
และกลุ่มอภิสิทธิ์ชนที่เข้าข่ายกรณีดังกล่าวมากที่สุดกลุ่มหนึ่ง คือ นักเรียนและนักศึกษา โดยเฉพาะในตัวบุคคลที่มีการใช้สถานภาพนักเรียนและนักศึกษาในการยกระดับตนเองให้มีคุณค่าในการเรียกร้องหรือกระทำอะไรก็ตาม และสังคมต้องรับฟังในฐานะปัญญาชนอะไรก็ตามแต่ รวมทั้งการใช้สถานภาพ บทบาท และภาพลักษณ์ของนักเรียนนักศึกษาในการแสวงหาโอกาสผลประโยชน์
ซึ่งอภิสิทธิ์ของกลุ่มนักเรียนและนักศึกษาที่มีอยู่ ไม่ว่าจะเป็นสิทธิทางกฎหมาย ภาพลักษณ์จากสังคม รวมทั้งการถูกปฏิบัติตัวจากสภาพแวดล้อมภายนอก ก็ไม่ได้เลวร้ายนักเมื่อเทียบกับบทบาทหน้าที่ที่ได้รับในฐานะกลุ่มคนที่เตรียมตัวเติบโตสู่การใช้ชีวิตในสังคมภาคหน้า เปรียบเทียบง่าย ๆ เด็กขอเงิน กับผู้ใหญ่ขอเงินกับคนเดียวกัน สังคมจะมองอย่างไรต่อกรณีนี้ ?
เพราะก็ต้องอย่าลืมว่านักเรียนนักศึกษาส่วนใหญ่ถือว่าเป็นผู้เยาว์ที่ในมุมหนึ่งก็ไม่ได้มีสิทธิในทางกฎหมายและอำนาจในการตัดสินใจของตนอย่างสมบูรณ์เมื่อเทียบกับผู้ที่บรรลุนิติภาวะแล้ว และอยู่ในการดูแลของผู้ปกครองและสถาบันทางการศึกษา ดังนั้นจึงเป็นอภิสิทธิ์ที่ได้รับแลกกับการไม่มีสิทธิ์ในการตัดสินใจและทำธุรกรรมสำคัญ ๆ ด้วยตนเองอย่างสมบูรณ์ เพราะยังเป็นผู้เยาว์อยู่
ยังไม่นับถึงภาพลักษณ์ของสังคมที่มองกลุ่มเด็กโดยเฉพาะในเครื่องแบบนักเรียนและนักศึกษาในแง่บวกเป็นส่วนมาก และสังคมก็มักจะตอบรับการขอความช่วยเหลือจากกลุ่มเด็กเหล่านี้อย่างจริงจังเมื่อเทียบกับกลุ่มคนอื่น ๆ และสังคมไทยมักให้คุณค่ากับกลุ่มคนที่เป็น “ปัญญาชน” ในฐานะอนาคตของประเทศ โดยเฉพาะในระดับมหาวิทยาลัยที่มักถูกสังคมคาดหวังในฐานะปัญญาชนในสังคมไทย
ทว่าก็มีหลายกรณีที่มีการใช้ช่องโหว่ของสถานะอภิสิทธิ์ชนพิเศษในการทำอะไรก็ตามแต่ที่ตนต้องการแต่เป็นพฤติกรรมที่ทำลายสังคมหรือแสวงผลประโยชน์เข้าใส่ตัว ซึ่งอภิสิทธิ์เหล่านี้ไม่ได้มีเพียงสิ่งที่มองเห็นอยู่ข้างหน้าแต่ยังมีอภิสิทธิ์ที่มองไม่เห็นแต่กลับสามารถรับรู้ได้ชัดเจน
ซึ่งความเป็นอภิสิทธิ์ชนของนักเรียนและนักศึกษาก็มีทั้งการมองจากสังคมที่มองกลุ่มนักเรียนและนักศึกษาว่าเป็น “ปัญญาชนของชาติ” หรืออาจมองไกลกว่านั้นว่า “อนาคตของชาติ” ซึ่งเป็นความอภิสิทธิ์ที่ใช้การเสริมความน่าเชื่อถือของตนในการแสดงออกสู่สังคมไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่ดีหรือไม่
ขณะเดียวกันเมื่อนักเรียนและนักศึกษาสังกัดที่ไหน ที่นั้นก็ย่อมต้องรับผิดชอบความเสี่ยงของผู้นั้นไม่มากก็น้อยตามที่ได้ตกลงกันมา รวมทั้งสิทธิทางกฎหมายในฐานะผู้เยาว์ที่สามารถป้องกันตนเองจากการถูกจำคุกในเรือนจำได้จนถึงอายุ 20 ปีบริบูรณ์
ซึ่งหากอภิสิทธิ์ชนกลุ่มนั้นได้กระทำผิดกฎหมายไม่ว่าจะเป็นประเด็นเล็กหรือประเด็นใหญ่ก็ตาม อภิสิทธิ์ของนักเรียนและนักศึกษาก็จะคุ้มครองตัวผู้กระทำความผิดผ่านมุมมองจากสังคมในเรื่องปัญญาชนหรือผู้ที่มีความรู้ เพราะสังคมให้ความสำคัญกับภาพลักษณ์ความบริสุทธิ์และความเป็นปัญญาชนของนักเรียนนักศึกษา จึงมักมองในเชิงของความเห็นใจมากกว่าความสะใจหรือซ้ำเติม
หรือแม้แต่สิทธิความเป็นผู้เยาว์ที่ไม่ต้องรับโทษในระดับที่รุนแรงมากนักเมื่อเทียบกับบุคคลที่บรรลุนิติภาวะแล้วที่เมื่อกระทำความผิดก็จะต้องรับโทษในสิ่งที่ทำลงไปเต็ม ๆ เพราะถึงแม้ว่าสิทธิทางกฎหมายของนักเรียนนักศึกษาที่มักเป็นผู้เยาว์จะมีสิทธิ์ที่ไม่สมบูรณ์แต่ก็แลกด้วยสิทธิทางกฎหมายในเรื่องการดำเนินคดีตามกฎหมายที่ไม่เด็ดขาดและรุนแรงเทียบเท่าผู้ที่บรรลุนิติภาวะไปแล้ว
ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นได้เพราะสังคมมองนักเรียนนักศึกษาเป็นกลุ่มคนที่บริสุทธิ์ เป็นปัญญาชนและเป็นอนาคตของพวกเขา รวมทั้งความเป็นเด็กในอีกทางหนึ่ง อภิสิทธิ์ของนักเรียนนักศึกษาจึงไม่ได้ถูกจับตามองเหมือนอภิสิทธิ์ของกลุ่มคนอื่น ๆ มากนัก
ทว่าในปัจจุบันอภิสิทธิ์เหล่านี้กำลังถูกสังคมกังขาครั้งใหญ่ในเรื่องกรณีที่เด็กกระทำผิดกฎหมายร้ายแรงแต่กลับไม่ถูกลงโทษอย่างจริงจังเพราะสถานะความเป็นผู้เยาว์ การเอาผู้เยาว์เป็นเครื่องมือทางการเมืองเพื่อบรรลุเป้าหมายทางการเมือง การใช้สถานะนักเรียนนักศึกษาในการแสวงหาผลประโยชน์ ทั้งหมดนี้กำลังจะสั่นสะเทือนการมีอภิสิทธิ์ของกลุ่มนักเรียนและนักศึกษาครั้งใหญ่
และหากเป็นเช่นนี้ต่อไปอยู่เรื่อย ๆ โดยไม่มีการแก้ไข ก็เกรงว่าเรื่องราวของนักเรียนนักศึกษาที่สังคมเคยมองในเชิงของความบริสุทธิ์และความหวัง รวมทั้งมีความรู้สึกเห็นใจอะไรต่าง ๆ สารพัด
อาจจะได้กลายเป็นเรื่องราวสังคมในอดีตไปเสียแล้ว
โดย ชย
#thestructure #นักเรียนนักศึกษา #อภิสิทธิ์ชน #เครื่องมือทางการเมือง
ปลานิลหลบไป! ราชันสัตว์เอเลียนนักฆ่า ‘แมวจรจัดออสซี’ ผู้ตัดจบสัตว์โลกมาแล้ว 22 สายพันธุ์ ฆ่านกและสัตว์เลื้อยคลานวันละล้านตัว จนรัฐบาลออสเตรเลียต้อง’ประกาศสงคราม’
คุณสมบัติและความย้อนแย่งของ นักทฤษฎีประชาธิปไตย “จอมปลอม” อวดอ้างอุดมการณ์ ต่อต้านเห็นต่าง นั่งบนหอคอยงาช้าง เหยียบย่างบนมวลชน
“อาการโหยหาอดีตเทียม” เครื่องมือสำคัญในสงครามสื่อมวลชน ที่ประชาชนต้องรู้เท่าทัน
ศิราวุธ ภุมมะกสิกร
อดีตวิศวกรโครงการ ระดับผู้จัดการ จบปริญญาตรีวิศวกรรมเครื่องกล จาก พระจอมเกล้าธนบุรี และ โท ด้าน Advanced Manufacturing Engineering จาก University of South Australia มีความสนใจในเรื่องประวัติศาสตร์ การเมือง และสวัสดิการสังคม