“การไปกล่าวโทษไอโอ ร้องแรกแหกกระเชอว่าโดนกลั่นแกล้ง… ไม่ใช่วิธีการแก้ปัญหาที่ตรงเป้า ควรป้องกัน แก้ไขที่ตนเอง…”
ปี 2567 นี้ อาจจะถือได้ว่าเป็นปีที่ยากลำบากของพรรคก้าวไกล-ประชาชน ซึ่งนอกจากการถูกศาลรัฐธรรมนูญพิพากษาให้พรรคก้าวไกลถูกยุบพรรค จนทำให้พรรคต้องเสียดาวเด่นอย่างนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ไปเมื่อวันที่ 7 ส.ค. 2567
ซึ่งหลังจากนั้น นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ซึ่งขึ้นมาแทนที่พรรคก้าวไกล กลับไม่สามารถสร้างความน่าสนใจให้กับพรรคประชาชนได้ จนทำให้พรรคประชาชน และนักการเมืองจากพรรคประชาชน ตกอันดับไปจากโพล
นอกจากนี้ พรรคก้าวไกล-ประชาชน ยังตกอยู่ในกระแสของการถูกจับผิดตลอดปี ในหลายกรณี ไม่ว่าจะเป็นกรณีการล่วงละเมิดทางเพศ, ทำร้ายร่างกายผู้หญิง, เมาแล้วขับ และกรณีอื่น ๆ อีกหลายกรณี
ซึ่งนี่คงปฏิเสธไม่ได้ว่า การถูกจับผิด และนำมาขยายความในโซเชียลมีเดียนั้น เป็นส่วนหนึ่งของปฎิบัติการข้อมูลข่าวสาร (Information Operation) ที่มักจะเรียกกันว่า “ไอโอ” ซึ่งไอโอหลายรายนั้น ก็เป็นขบวนการจัดตั้งจริง ๆ แต่บางรายนั้น ก็เป็นประชาชนจริง ๆ ที่ออกมาเปิดเผยพฤติการณ์บางอย่างที่ตนเองไม่พอใจออกมา
อย่างไรก็ดี ในช่วงต้นปี (19 ม.ค. 2567) รศ. ดร.ปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า ได้เคยออกมาเตือน สส. และสมาชิกพรรคก้าวไกล (และพรรคประชาชน) แล้วว่าในเมื่อเป็นบุคคลสาธารณะไปแล้ว ก็ย่อมที่จะมีคนรัก และคนจับผิดเป็นธรรมดา อีกทั้งยังให้คำแนะนำแล้วด้วยว่า
“การไปกล่าวโทษไอโอ ไปร้องแรกแหกกระเชอว่าโดนกลั่นแกล้ง ไปตามจับตามสืบว่าใครไปปล่อยข่าว แอบถ่าย ไม่ใช่วิธีการแก้ปัญหาที่ตรงเป้า ควรป้องกัน แก้ไขที่ตนเอง ทำตัวให้มาชัว ครองตนอย่างระวัง รอบคอบ แต่กล้าหาญ ควบคุมดูแลคัดกรองทีมงานให้ดี
วันนี้ เป็น ผู้แทนราษฎรแล้ว วันนี้ เป็นตัวแทนของพรรคก้าวไกลที่คนคาดหวังสูงแล้ว ก็ควรประพฤติปฏิบัติตนให้เข้าที่เข้าทางเสียหน่อย อย่าให้ประชาชนที่ฝากความหวัง ต้องผิดหวัง คิดถึงเสียงกู่ร้อง แววตา ของประชาชนที่เราได้เห็นช่วงหาเสียงให้มากๆ คิดถึงความตั้งใจของประชาชนที่กลับบ้านไปเลือกพรรคก้าวไกลให้มากๆ ถ้าทำได้เท่านี้ จะกี่เพจ จะกี่ปฏิบัติการไอโอ ก็ทำอะไรไม่ได้” และ
“องค์กรแบบก้าวไกล คือ แบรนด์ แนวคิด อุดมการณ์ ไม่ได้ขายคนคนเดียวหรือไม่กี่คน ทุกๆคนที่อยู่ที่นี่ ต่างก็อาศัยพลังของกันและกัน ไม่มีใครคนไหน ออกไปโตเดี่ยวแล้วจะรอด ชนะเลือกตั้งกันมา ก็คือแนวคิดและกระแสพรรคหนุนส่งเป็นสำคัญ ดังนั้น ทำอะไร ต้องคิดถึงพรรค เพื่อนร่วมพรรค สมาชิกพรรค และประชาชนที่เลือกมาให้มากๆ”