พนักงาน Starbucks ขยายการหยุดงานทั่วสหรัฐ เพื่อเรียกร้องให้เพิ่มค่าจ้างขั้นต่ำของพนักงานรายชั่วโมง
พนักงานร้าน Starbucks ได้ขยายการนัดหยุดงานประท้วงในอีก 4 เมืองในสหรัฐฯ รวมถึงนิวยอร์ก
สหภาพแรงงานซึ่งเป็นตัวแทนของบาริสต้ากว่า 10,000 คน เปิดเผยว่า การประท้วงหยุดงาน 5 วัน (โดยจะขยายการประท้วงหยุดงานในทุกวันจนกว่าจะบรรลุข้อตกลง) ซึ่งเริ่มขึ้นในวันศุกร์ (20 ธ.ค.) และทำให้ร้าน Starbucks ในลอสแองเจลิส ชิคาโก และซีแอตเทิล ต้องปิดให้บริการหลายสาขาในช่วงแรก ได้ขยายไปยังนิวเจอร์ซี นิวยอร์ก ฟิลาเดลเฟีย และเซนต์หลุยส์
Starbucks กล่าวว่า การหยุดชะงักจากการหยุดงานไม่มีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อการดำเนินงานของบริษัท เนื่องจากมีร้าน Starbucks ในสหรัฐฯ เพียงไม่กี่แห่งที่ได้รับผลกระทบ พร้อมเสริมว่า ข้อเสนอของสหภาพแรงงานที่เรียกร้องให้เพิ่มค่าจ้างขั้นต่ำของพนักงานรายชั่วโมง 64% และ 77% ตลอดอายุสัญญา 3 ปี ในทันทีนั้น เป็นสิ่งไม่ยั่งยืน
สหภาพแรงงานได้หยุดงานประท้วงใน 10 เมือง รวมถึงเมืองโคลัมบัส รัฐโอไฮโอ เมืองเดนเวอร์ และเมืองพิตต์สเบิร์ก ในช่วงเทศกาลวันหยุดที่คึกคักซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อยอดขายของบริษัทในช่วงคริสต์มาส โดย Starbucks ดำเนินกิจการร้านกาแฟกว่า 11,000 แห่งในสหรัฐอเมริกา และมีพนักงานประมาณ 200,000 คน
การเจรจาระหว่าง Starbucks และสหภาพแรงงานประสบทางตัน เนื่องจากปัญหาที่ยังไม่ได้รับการแก้ไขเกี่ยวกับค่าจ้าง พนักงาน และตารางเวลา นำไปสู่การนัดหยุดงาน
สหภาพแรงงาน เตือนเมื่อวันศุกร์ (20 ธ.ค.) ว่าการหยุดงานอาจขยายไปถึง “ร้าน Starbucks หลายร้อยแห่ง” ภายในวันอังคาร (24 ธ.ค.) ซึ่งเป็นวันคริสต์มาสอีฟ
Starbucks เริ่มเจรจากับสหภาพแรงงานตั้งแต่เดือน เม.ย. โดยในเดือนนี้ Starbucks ระบุว่า ได้จัดการเจรจาต่อรองไปแล้วกว่า 8 ครั้ง ซึ่งระหว่างนั้นได้บรรลุข้อตกลงไปแล้วกว่า 30 ฉบับ