หุ้นตกหลังเศรษฐา พ้นจากตำแหน่งนายกฯ สภาอุตฯ ชี้การลงทุนจะหยุดชะงัก รอนายกฯ และ ครม. ใหม่ หอการค้าเชื่อไม่กระทบประมาณการเศรษฐกิจปีนี้
ภายหลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญตัดสินให้นายกเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีพ้นจากตำแหน่ง ซึ่งทำให้สถานะความเป็นรัฐมนตรีของคณะรัฐมนตรีสิ้นสุดตามลงไปด้วยนั้น ทำให้ดัชนีตลาดหุ้นไทย (SET Index) ซึ่งในช่วงเช้าเปิดตลาดที่ 1,305.36 จุด และปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง กลับมีทิศทางตกลง โดยมีจุดต่ำสุดที่ 1,280.99 จุด และปิดตลาดที่ 1,292.69 จุด
นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่าคำตัดสินจะทำให้นักลงทุนทั้งไทยและต่างประเทศหยุดชะงัก และกลับไปทบทวนว่าจะเปลี่ยนแปลงการลงทุนหรือไม่ ซึ่งในปัจจุบันไทยมีปัญหารุมเร้า และต้องเผชิญหน้ากับปัญหาความท้าทายของโลกมากมาย
การตัดสินใจของนักลงทุนคือเรื่องของการเมือง นักลงทุนทั้งไทยและต่างชาติต้องการการเมืองที่มีเสถียรภาพ มีความนิ่ง และต่อเนื่อง ซึ่งที่ผ่านมาไทยไม่มีความต่อเนื่องมานาน และหลังจากนี้จะรอดูความชัดเจนของนายกรัฐมนตรีคนใหม่ และคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ต่อไป
อย่างไรก็ดีตั้งแต่ที่มีคดีมา 80 วัน ทุกคนชะลอการลงทุนอยู่แล้ว และรอดูกันอยู่ว่าสถานการณ์จะเป็นอย่างไร แต่ไม่ได้หมายความว่าทุกอุตสาหกรรมจะหยุดหมดเพราะขึ้นอยู่กับความต้องการของอุตสาหกรรมนั้นๆ ด้วย
นักลงทุนต่างประเทศฝั่งอเมริกา ยุโรป อาจจะให้น้ำหนักในเรื่องนี้มาก ในขณะที่นักลงทุนจากญี่ปุ่นซึ่งเป็นนักลงทุนรายใหญ่ที่สุดของไทย และอยู่ในประเทศมา 40-50 ปี ก็อาจจะเริ่มเรียนรู้ และสามารถปรับตัวได้
ด้านนายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่าคำตัดสินดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจของประเทศในระยะสั้น โดยเฉพาะโครงการและแผนงานต่าง ๆ ที่กำลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศในขณะนี้ แต่เชื่อว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อประมาณการเศรษฐกิจในปีนี้ และการท่องเที่ยวจะยังเดินหน้าต่อไปได้
ในระหว่างการรอนายกรัฐมนตรีคนใหม่ และคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ ซึ่งคาดว่าจะมีระยะเวลาประมาณ 1 เดือน ก็อยากจะให้มีการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณภาครัฐ เพื่อให้มีการขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้ต่อเนื่อง