
“ลิเลียนา เซเกร” ผู้รอดชีวิตจากการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ กล่าวเปิดประชุมสมัยแรกสภาชุดใหม่อิตาลี
สมาชิกรัฐสภาอิตาลีมอบอำนาจให้ “ลิเลียนา เซเกร” อายุ 92 ปี สมาชิกเพียงคนเดียวในครอบครัวชาวยิวของเธอ ที่รอดชีวิตจากค่ายกักกันเอาชวิทซ์ ขึ้นกล่าวเปิดสมัยประชุมแรกของสภาชุดใหม่
14 ต.ค. อัลจาซีราห์ รายงานว่า ในสมัยประชุมแรกของรัฐสภาชุดใหม่อิตาลี เปิดฉากด้วยสุนทรพจน์โดยลิเลียนา เซเกรผู้รอดชีวิตจากการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ หลังพรรคขวาจัดชนะการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อเดือนที่แล้ว
“ลิเลียนา เซเกร” อายุ 92 ปี สมาชิกวุฒิสภาอิตาลี เป็นสมาชิกคนเดียวในครอบครัวชาวยิวของเธอ ที่รอดชีวิตจากการถูกเนรเทศไปยังเอาชวิทช์ตั้งแต่ยังเด็ก เธอเป็นเด็กอิตาลีเพียงไม่กี่คนที่รอดชีวิตมาได้ ในช่วงไม่กี่สิบปีที่ผ่านมา เธอได้ทุ่มเทอุทิศตนเพื่องานด้านการศึกษาในโรงเรียนของอิตาลี จนทำให้ประธานาธิบดี “เซอร์จิโอ มัตตาเรลลา” แต่งตั้งให้เธอเป็นวุฒิสมาชิกเมื่อปี 2561
เซเกร กล่าวว่า “ในเดือนตุลาคมนี้ ซึ่งเป็นวันครบรอบร้อยปี ‘การเดินขบวนสู่โรม’ (March on Rome) ที่เริ่มต้นการปกครองแบบเผด็จการฟาสซิสต์ สำหรับฉันแล้ว มันเป็นความรับผิดชอบที่ต้องทำหน้าที่ประธานในอารามแห่งประชาธิปไตยนี้เป็นการชั่วคราว”
“มันเป็นไปไม่ได้สำหรับฉันที่จะไม่รู้สึกวิงเวียน เมื่อระลึกได้ว่าเด็กหญิงตัวเล็กๆ คนเดียวกับในวันนี้ เมื่อปี 2481 เธอรู้สึกท้อแท้และพ่ายแพ้ เธอถูกบังคับโดยกฎหมายเหยียดผิวให้ออกจากโต๊ะในชั้นเรียนสมัยประถม แต่ตอนนี้ ด้วยโชคชะตาอันบิดเบี้ยวอย่างแปลกประหลาด เธอได้อยู่ที่โต๊ะทำงานอันทรงเกียรติที่สุดในวุฒิสภา
สุนทรพจน์ของเซเกรได้รับเสียงปรบมือจากสมาชิกรัฐสภา 200 คนที่เข้าร่วม ซึ่งรวมถึง “อิกนาซิโอ ลา รุสซา” ประธานวุฒิสภา ที่เพิ่งได้รับเลือกเข้ามาใหม่ ทั้งนี้สุนทรพจน์ของเซเกรจะเป็นจุดเริ่มต้นของเหตุการณ์ที่จะนำพรรค Brothers of Italy ของเมโลนี ขึ้นสู่อำนาจอย่างเป็นทางการ หลังจากได้รับคะแนนเสียงมากที่สุดในการเลือกตั้งเมื่อ 25 กันยายน ทั้งนี้ โดยพรรคดังกล่าวมีต้นกำเนิดมาจากขบวนการนีโอฟาสซิสต์
ปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า VS ธนกร วังบุญคงชนะ รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ
หมอวรงค์เตือนโบว์-ณัฏฐา ปกป้องทักษิณแบบไม่ถูกต้อง กรณีระเบียบราชทัณฑ์เกี่ยวกับการพักโทษ
“โลกมันเปลี่ยนแปลงรวดเร็วมาก การเลี้ยงดูลูกสำคัญ” เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ วันที่ 4 ต.ค. 66
ศิราวุธ ภุมมะกสิกร
อดีตวิศวกรโครงการ ระดับผู้จัดการ จบปริญญาตรีวิศวกรรมเครื่องกล จาก พระจอมเกล้าธนบุรี และ โท ด้าน Advanced Manufacturing Engineering จาก University of South Australia มีความสนใจในเรื่องประวัติศาสตร์ การเมือง และสวัสดิการสังคม