
ตรวจสอบเข้มสินค้าอ้างผลิตในเกาหลีใต้ เหตุ ‘Made in Korea’ อาจถูกนำไปใช้หลบภาษีจากสหรัฐฯ
สำนักงานศุลกากรเกาหลีใต้ (KCS) ประกาศในวันนี้ (25 มี.ค.) ว่าจะเปิดการสอบสวนพิเศษเกี่ยวกับการละเมิดข้อตกลงการค้าเสรี (FTA) กับสหรัฐฯ เกี่ยวกับการระบุแหล่งกำเนิดสินค้าไม่ถูกต้อง การดำเนินการดังกล่าวมีขึ้นก่อนที่มาตรการภาษีของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ จะเริ่มบังคับใช้
เกาหลีใต้เป็นหนึ่งใน 20 ประเทศทั่วโลก และเป็นเพียง 1 ใน 3 ประเทศในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ที่มีข้อตกลงการค้าเสรีกับสหรัฐฯ ซึ่งภายใต้ข้อตกลงดังกล่าว สินค้าที่ซื้อขายระหว่างกันเกือบทั้งหมดจะได้รับการยกเว้นภาษีนำเข้า
KCS ระบุว่า การสอบสวนในครั้งนี้จะมุ่งเป้าไปที่สินค้าที่ส่งออกไปยังสหรัฐฯ โดยจะตรวจสอบว่ามีการละเมิดการระบุแหล่งกำเนิดสินค้าหรือไม่
โดยทางการจะดำเนินการขั้นเด็ดขาดกับบริษัทที่จงใจปลอมแปลงสินค้าจากต่างประเทศให้กลายเป็นสินค้าที่ผลิตในเกาหลีใต้ (Made in Korea) เพื่อปกป้องบริษัทในประเทศ และรักษาความน่าเชื่อถือของสินค้าส่งออกของเกาหลีใต้
KCS ระบุเพิ่มเติมว่า สินค้าที่จัดอยู่ในกลุ่มความเสี่ยงว่าจะมีการปลอมแปลงแหล่งกำเนิดสินค้า เช่น สินค้าที่อยู่ภายใต้มาตรการภาษีตอบโต้การทุ่มตลาดของสหรัฐฯ หรือสินค้าที่ถูกหน่วยงานศุลกากรของสหรัฐฯจับตาเป็นพิเศษ จะถูกตรวจสอบอย่างละเอียด
“เรากำลังดำเนินการเชิงรุกเพื่อปกป้องบริษัทในประเทศ เนื่องจากมีความกังวลจากประสบการณ์ในช่วงการดำรงตำแหน่งครั้งแรกของประธานาธิบดีทรัมป์ว่า การตรวจสอบของสหรัฐฯ อาจเข้มงวดขึ้นหลังจากการกำหนดภาษีที่สูงขึ้น” โฆษกกรมศุลกากรเกาหลีใต้ ระบุในแถลงการณ์
รัฐบาลทรัมป์ประกาศว่าจะดำเนินมาตรการภาษีตอบโต้กับประเทศคู่ค้าหลักภายในวันที่ 2 เม.ย. หลังจากที่ได้ประกาศขึ้นภาษีสำหรับสินค้านำเข้าจากจีน แคนาดาและเม็กซิโก ฐานไม่ปฏิบัติตามข้อตกลงการค้าเสรี
ที่มา: รอยเตอร์